ที่ประชุม'อาเซียน' ลงมติให้ไทย ต้นแบบจัดไมซ์นานาชาติ ขอนแก่นรับแรงหนุน!   


22 มกราคม 60 08:08:46

ที่ประชุม'อาเซียน' ลงมติให้ไทย ต้นแบบจัดไมซ์นานาชาติ ขอนแก่นรับแรงหนุน!

          ในการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน ASEAN Tourism Forum (ATF 2017) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์นั้น รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ มีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยโดยทีเส็บเป็นผู้นำของประเทศอาเซียน ในการจัดทำมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ในอาเซียน หรือ ASEAN MICE VENUE STANDARD (AMVS)

          "นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย" ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ บอกว่า ทีเส็บริเริ่มโครงการมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ในประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อพัฒนาสถานที่จัดงานประชุมและแสดงสินค้าในประเทศไทยให้ได้มาตรฐาน รองรับการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ เพราะสถานที่จัดงานถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้จัดงาน

          โดยจากการดำเนินงานที่ผ่านมานั้น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย ผ่านการประเมินสถานที่จัดงานไมซ์ (ประเภทห้องประชุม) จำนวนทั้งสิ้น 142 แห่ง 341 ห้อง ครอบคลุมทั้งศูนย์การประชุม โรงแรมและรีสอร์ต และหน่วยงานที่มีห้องประชุม เช่น ศาลากลางจังหวัด พิพิธภัณฑ์ สมาคม และสถาบันต่าง ๆ โดยดำเนินงานในพื้นที่ของเมืองไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง (กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น) และหาดใหญ่

          และวางเป้าหมายขยายไปยังเมืองไมซ์ในคลัสเตอร์ที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลด้วย

          สำหรับการยกระดับให้มาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของไทยนั้น ได้รับการพัฒนาสู่การเป็นมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของอาเซียน โดยประเทศไทยได้เสนอตัวไปยังที่ประชุมการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ National Tourism Organizations (NTOs) ในการทำมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของอาเซียน

          ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของไทย (TMVS)

 

          จากนั้นที่ประชุมการท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็น Lead Coordinator หรือผู้รับผิดชอบหลักในการจัดทำมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์อาเซียน โดยประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมกับ 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นจำนวน 4 ครั้ง เพื่อพัฒนามาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ของอาเซียน โดยใช้มาตรฐานของไทย เป็นต้นแบบทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนจะสามารถใช้มาตรฐานห้องประชุมอาเซียนในมาตรฐานระดับภูมิภาค ได้

 

          นับเป็นความสำเร็จที่ทำให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในเวทีอาเซียนด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์และพัฒนาศักยภาพด้านไมซ์ของ 10 ประเทศอาเซียน ตามกรอบความร่วมมือแห่งชาติอาเซียน และเป็นไปตามแผนขับเคลื่อนไมซ์ประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์ของอาเซียนระยะ 10 ปี (ปี พ.ศ. 2559-2569) อีกด้วย

ททท.ชงขอนแก่นโมเดล ปั้นเมืองต้นแบบท่องเที่ยวอีสาน 5 ล้านคนปี 60

ททท.ชู “ขอนแก่น โมเดล” ยกระดับสู่เมืองหลักด้านการท่องเที่ยว วางเป้าขยับหัวทัวริสต์เพิ่มเป็น 5 ล้านคนต่อปี ในปี 60 โฟกัสดึงไมซ์-อีเวนต์ วางหมากจุดขายเชื่อมโยงอนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขง รับลูกการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ใหม่รัฐและเอกชน มูลค่าไม่ตํ่ากว่า 3.95 หมื่นล้านบาท ทั้งศูนย์ประชุมกลุ่มซีพีแลนด์ แผนขยายสนามบิน รถไฟทางคู่ และระบบขนส่งมวลชนรางเบา

     การที่จังหวัดขอนแก่นกำลังมีแผนการลงทุน พัฒนาเมืองครั้งใหญ่ เพื่อก้าวไปสู่สมาร์ทซิตี้ ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ โครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และระบบขนส่งรถไฟฟ้ามวลเบาในตัวเมือง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงเห็นศักยภาพที่จะยกระดับขอนแก่นให้เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

      นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.เปิดเผยว่ามีนโยบายที่จะผลักดันการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น ให้ก้าวขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยโดยมีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนผู้มาเยี่ยมเยือน(นักท่องเที่ยวที่มาพักค้างคืนและนักทัศนาจร)จากปัจจุบันที่มีจำนวน 3.8 ล้านคนต่อปีเพิ่มให้เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2560 หรือเพิ่มอีก 1.2 ล้านคนภายใต้กลยุทธ์”ขอนแก่น โมเดล”

 

“ทีเส็บ”ยกขอนแก่น เป็น1ใน5 ไมซ์ซิตี

ด้านนายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เผยว่า จังหวัดขอนแก่น เป็น 1 ใน 5 เมืองไมซ์ซิตีหลักของประเทศไทย ที่ทีเส็บให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับอีก 4 เมือง คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา โดย ทีเส็บ มีนโยบายขับเคลื่อนตามแผนแม่บทขอนแก่นไมซ์ซิตี (พ.ศ.2557-2561) เพื่อผลักดันให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและการแสดงสินค้าที่สร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

     โดยจะดำเนินการภายใต้ 5 แผนยุทธศาสตร์หลัก คือ 1. ผลักดันให้มีการจัดงานไมซ์ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 2. ยกระดับมาตรฐานบริการสู่ระดับสากล 3. สร้างเครือข่ายความร่วมมือในประเทศและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 4. ส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวก และ 5. สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจไมซ์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงผ่านการสร้างแบรนด์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการในระยะที่ 1 ไปแล้ว คือ มุ่งเน้นการสร้างความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับท้องถิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ 2 (พ.ศ.2559-2560) ซึ่งจะขยายกรอบการทำงานเพิ่มความมั่นใจในการเป็นศูนย์กลางไมซ์ ส่งเสริมการจัดงานระดับเมกะโปรเจ็กต์ และความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น เพื่อพัฒนาขอนแก่นไปสู่เมืองไมซ์ซิตีที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ และฐานเศรษฐกิจ







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS