เร่งสางปม ฆ่าหั่นศพยัดถังฝังดิน สาวร้านสถานบันเทิง ที่จังหวัดขอนแก่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่ บก.สส.ภ. 4 พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 ได้ลงมาสั่งการและสอบสวนคดีฆ่าหั่นศพสาวสวยผับดัง “ยัดใส่ถัง” อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมกับแบ่งหน้าที่ให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง สอบสวนนางสายรุ้ง เพียแก่น อายุ 42 ปี แม่ผู้ตาย พร้อมกับเครือญาติ และ พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.3 บก.สส.ภ4 สอบปากคำ นายศักดิ์ชัย บาตรเต็มดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 7 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างทั่วไป และเป็นสามีของผู้ตาย
นอกจากนี้ พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมคณะสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ได้สอบสวน นางสำราญ เพียแก่น อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 10 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยาย และญาติผู้ตาย ซึ่งมีประมาณ 4 คน โดย พล.ต.ต.ยรรยง ได้มาสอบถามแต่ละห้องที่แบ่งให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำคนใกล้ชิด และบุคคลที่ต้องสงสัยในคดีฆ่าหั่นศพสาวสวยผับดัง “ยัดใส่ถังดำ” ชึ่งใช้เวลาสอบสวนแต่ละห้องไม่น้อยกว่า 2- 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะนายศักดิ์ชัย สามีของผู้ตายได้ปิดห้องเงียบสอบสวนนานเป็นพิเศษ
นางสำราญ เพียแก่น ยายผู้ตาย เปิดเผยว่า ในการสอบปากคำของตำรวจ ตนได้บอกว่า ขณะที่ผู้ตายทำงานที่คาราโอเกะชื่อดังในเมืองขอนแก่นก็ได้รู้จักและสนิทสนมกับน้องป๊อปปี้สาวทอม และมาอยู่กับสาวทอมที่หอพักแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น กระทั่งแม่ของผู้ตายทราบข่าวก็ติดต่อกับนายศักดิ์ชัยมาแต่งงานกับผู้ตาย โดยมีพิธีแต่งงานเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ตายไม่ยินยอมแต่ต้องตามใจแม่ และไปอยู่กับนายศักด์ชัยที่ กทม.แบบไม่ได้ทำงานอะไร ทำให้ผู้ตายอดคิดถึงสาวทอมไม่ได้ พร้อมกันนี้ได้มีเรื่องทะเลาะกันอยู่เสมอ เป็นเหตุให้ผู้ตายต้องโกหกกับนายศักดิ์ชัยว่าจะขอไปพักกับตนที่ จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางมาที่ขอนแก่น เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2560 โดยไม่มาหาตน แต่ไปหาสาวทอม พร้อมกับไปทำงานอยู่คาราโอเกะแห่งเดิม กระทั่งตนมาทราบข่าวจากตำรวจว่าพบศพผู้ตายอยู่ในสถานที่ดังกล่าว แบบถูกฆ่าหั่นศพยัดใส่ถังอีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว และส่งให้ศาลลงโทษประหารชีวิต เพราะคนร้ายใจอำมหิตอย่างมาก
ต่อมา พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช. ภ.4 (ปป) เปิดเผยว่า คดีฆ่าหั่นศพสาวสวยผับดัง “ยัดใส่ถังดำ” ได้ตั้งประเด็นเรื่องชู้สาว ,ชิงทรัพย์ และประเด็นทะเลาะวิวาท การสอบสวนได้แคบลงมามาก ซึ่งมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายก่อคดีครั้งนี้มีไม่น้อยกว่า 2-3 คน ที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งให้สายสืบติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด พร้อมกับรอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และหลักฐานอื่นๆที่เจ้าหน้าที่หาได้มายืนยันการติดตามหาตัวกลุ่มคนร้าย ภายใน 7 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องจับตัวคนร้ายรายนี้ได้แน่นอน
“โดยเฉพาะการโอนเงินของผู้ตายครั้งสุดท้ายโอนไปให้ใคร เพราะก่อนที่จะหายไปตัวผู้ตายได้ไปโอนเงินที่หน้าร้านสะดวกซื้อแถวหน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ก็มีการยืนยันของแม่ผู้ตาย และเครือญาติยืนยันแล้วว่าผู้ตายเป็นลูกสาว พร้อมลูกหลานของเครือญาติ ซึ่งผู้ตายเป็นคนนิ่งเฉยไม่ค่อยพูดกับเครือญาติ และชอบเก็บไว้ในใจ การสอบสวนจึงเป็นภาพกว้างซึ่งต้องสอบแม่และญาติทุกคนที่เกี่ยวข้องจากภาพที่ใหญ่ขึ้นก็จะแคบลง ประเด็นจึงเหลือในเรื่องของชู้สาว ที่เป็นประเด็นหลักในการสืบสวนตามหาตัวคนร้าย” พล.ต.ต.เจริญวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจาก พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 ได้สอบปากคำ นายศักดิ์ชัยสามีผู้ตายนานถึง 2 ชั่วโมง ก็ได้มอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง ได้มาสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพนักงานสอบสวน เพื่อเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐานในการติดตามหาตัวคนร้ายต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฆ่าหั่นศพหญิงสาววัย 23 ปี ยัดถุงดำทิ้งกลางป่า ที่ จ.ขอนแก่น
ขอขอบคุณภาพและข่าวจาก คุณ?ก่อสิทธิ์ กองโฉม ขตว.เดลินิวส์ขอนแก่น และคุณจิราภรณ์ พอกพูล
