น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ทะลุ 100% ผู้ว่าฯสั่งการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ. ขอนแก่น ณ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำกักเก็บ 2,584.97 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 106.32 % ของความจุอ่าง ทำให้มีระดับเกินเส้นควบคุมบน และมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนไปแล้วถึง 3,280 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 131% ของปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยทั้งปี (2,500 ล้าน ลบ.ม./ ปี) ทำให้ทางเขื่อนอุบลรัตน์ ต้องเพิ่มการระบายน้ำตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ให้เพิ่มการระบายน้ำ หากระดับน้ำในเขื่อนสูงเกิน 181.00 ม.รทก. และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่า 25 ล้าน ลบ.เมตร ในการปรับการระบายน้ำให้ปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดให้อยู่ระหว่าง 26-35 ล้าน ลบ.ม./วัน
อย่างไรก็ตาม การที่เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่มขึ้นทำให้ลำน้ำพอง ลำน้ำชี มีน้ำหลากมากขึ้น โดยเฉพาะไร่นาเกษตรกร และบ้านเรือนราษฎรที่ติดลำน้ำพองและลำน้ำชี นอกจากนี้ ช่วงนี้มีฝนตกหนักมาก ส่งผลให้มีน้ำท่วมในหลายหมู่บ้านในเขต อ.เมืองขอนแก่น โดยเฉพาะในเขต หมู่ 1 บ้านผือ ต.พระลับ ได้มีน้ำท่วมเข้ามาในบ้าน และในชุมชนมากกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะในโรงเรียนบ้านผือ และโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลพระลับ ได้มีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม. ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของไปไว้บนที่สูงเพราะคาดว่าน้ำจะต้องท่วมสูงกว่าเดิมแน่นอน
ส่วนที่บ้านเหล่านกชุม ต.ดอนหัน น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำชีเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรสูงกว่า 20-30 ซม. ประมาณ 60 หลังคาเรือน และท้ายหมู่บ้านที่ติดกับบ้านโนนเขวา หมู่ 12 ต.ดอนหัน ได้มีน้ำท่วมไร่นาเกษตรกรมากกว่า 1 พันไร่ และท่วมถนน รพช.จากบ้านเหล่านกชุม-บ้านโนนเขวา ระยะทาง 2 กม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือเล็กในการเดินทางจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยไม่มีส่วนราชการมาช่วยเหลือ
ด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดได้มีการประกาศแจ้งเตือนรับมือกับพายุฝนที่จะตกลงมาครอบคลุมทั้งพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในขณะนี้ โดยให้ประชาชนเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมสั่งการให้ทางอำเภอในสังกัดตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและนำมาตรการเฝ้าระวังและการช่วยเหลือต่างๆประชาชนในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์นั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
“สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ขณะนี้เกินความจุอ่าง ทำให้ต้องมีการระบายน้ำออกเพิ่มเติมเพื่อรักษาสถานภาพของเขื่อนและเป็นไปตามกลไกของการบริหารจัดการน้ำ ดังนั้น เมื่อมีการระบายน้ำเพิ่มก็จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่อำเภอตอนท้ายเขื่อน ประกอบด้วย อ.น้ำพอง อ.เมืองขอนแก่น รวมทั้งพื้นที่ตามแนวแม่น้ำพอง ที่จะบรรจบกับแม่น้ำชี ที่จะมีสถานการณ์น้ำขึ้นฉับพลันครอบคลุมไปถึง พื้นที่ จ.มหาสารคาม,จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด นอกจากแผนการบริหารจัดการน้ำแล้ว ทางจังหวัดยังคงมีการเน้นย้ำในแนวทางปฎิบัติว่าด้วยการเผชิญเหตุการรับมือสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งทุกอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการแผนการทำงานร่วมกันอย่างเต็มความสามารถ
ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งในการตรวจสอบพนังกั้นน้ำและแนวคันดิน หรือพื้นที่อ่างเก็บน้ำต่างๆ ว่าแข็งแรงและสามารถรับมือกับมวลน้ำ ที่มาจากธรรมชาติ, น้ำจากพายุฝน และน้ำจากการระบายน้ำของเขื่อน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำและการควบคุมสถานการณ์เป็นไปตามขั้นตอนและก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว
