'ไอ้ตั้ม' มือฆ่าปาดคอชิงไอโฟน ขอลดโทษประหาร อ้างอารมณ์ชั่ววูบ
จากกรณีนายกิตติกร วิกาหะ (ตั้ม) ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ของนายสุพัฒชัย จันทร์ศรี (เอ๊กซ์) จากนั้นนายตั้ม ได้ใช้อาวุธมีดแทงนายวศิน เหลืองแจ่ม หรือมะปิน อดีตบัณฑิตชาย มศว.ประสานมิตร เพื่อชิงโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จนถึงแก่ความความตาย ในคืนวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยในคดีดังกล่าว ศาลอาญาได้พิพากษา ประหารชีวิตนายต้อมและนายเอ๊กซ์ ในความผิดร่วมกันฆ่า พฤติการณ์นับเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ตามที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ดร.เจษฎา เหลืองแจ่ม คุณพ่อของน้องมะปิน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ “รู้สึกเศร้าใจ เมื่อวานวันอาทิตย์ได้รับหมายศาลคดีอุทธรณ์ของนายตั้ม ที่ทำร้ายมะปินมาสอดไว้ที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน ปั้มหมายศาล คำสั่งศาลไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด แล้วก็ลงวันที่ 19 พ.ย. 60 โดยไม่ใส่ซองให้เรียบร้อย ก็มาคิดว่าระบบหมายศาลเขาทำกันแบบนี้หรือ ทำเหมือนเศษกระดาษ” ซึ่งคดีนี้ศาลได้สินประหารชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ส.ค. โดยจำเลยขออุทธรณ์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ศาลอาญา ลงวันที่ 2 พ.ย. 60 ส่งถึงโจทก์วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยการหย่อนที่หน้าบ้าน โดยไม่ได้ใส่ซอง โดยอ้างเหตุผลการขออุทธรณ์เพราะทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะติดคุกมาแล้ว 8 ครั้ง “วันที่ทำร้ายมะปินแล้ว คืนนั้นยังไม่ก่อเหตุต่ออีก 2-3 คดี แบบนี้เป็นสันดาน แล้วจะกลับมาทำความดีได้อย่างไร จึงอยากฝากศาลไว้ด้วย การพิจารณาคดีขอให้สมเหตุสมผลด้วย อย่าได้กลัวว่าคนชั่วจะล้นคุก”
ทางด้านเพจ @Fight For Mapin แฟนเพจที่เหล่าเพื่อนๆ และคนสนิทของน้องมะปิน จัดทำขึ้นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เผยว่า “ศาลส่งเอกสารคำยื่นอุทธรณ์ของฆาตกร ขอให้ลดโทษเป็นสถานเบา และส่งมาแบบกระดาษเปล่าไม่ใส่ซอง!!! คือถ้าเอกสารหาย หรือชำรุด คดีนี้นักโทษก็จะได้รับอุทธรณ์อย่างนั้นหรือ? ระบบยุติธรรมของเราเป็นแบบนี้ใช่ไหม?”
โชคดีที่คุณพ่อของมะปิน พบเอกสารในฉบับที่สมบูรณ์ ที่ภายในเอกสารแจ้งว่าต้องดำเนินเรื่องแย้งอุทธรณ์ภายใน 15 วัน ซึ่งคำอุทธรณ์มีเนื้อหาคร่าวๆ ว่า ขอลดโทษจากศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตเป็นโทษสถานเบา เพื่อจำเลยจะได้ออกมาบำเพ็ญประโยชน์ให้ชาติ และบวชทดแทนคุณให้น้องมะปิน โดยอ้างเหตุผลที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ทางเพจหวังว่าศาลคงไม่เห็นด้วยกับการอุทรณ์ครั้งนี้ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าไม่เจอเอกสารจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคดีอื่นๆ นอกจากคดีนี้ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือไม่ ที่นักโทษคดีร้ายแรงถึงกลายเป็นเบา และออกมาจากคุกกันอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างที่ทางครอบครัวกำลังปรึกษาทนายความ ถึงกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณภาพและข่าวจาก เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/crime/611239
