เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ธ.ค  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ขอนแก่น รายงานว่า จากการออกสำรวจการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนถึงวันออกสลากฯ ในวันที่ 16 ธ.ค.  พบว่าพ่อค้า-แม่ค้า ส่วนใหญ่ต่างยังคงนำมาจำหน่ายในรูปแบบรายย่อย ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการปั่นจักรยานจำหน่ายตามจุดต่างๆ โดยส่วนใหญ่จำหน่ายในราคาใบละ 90 บาท และหากเป็นเลขชุดจะจำหน่ายใบละ 100 บาท โดยเฉพาะเลขดังจะขายเป็นชุด 5 ใบ 30 ล้าน ชุดละ600 บาท ชุดละ10 ใบ 60 ล้าน ชุดละ 1,300 บาท ชุดละ 15 ใบ 90 ล้าน ชุดละ 2,500 บาท โดยเฉพาะเลขดัง 61 -16 ต้อนรับปีใหม่ 2561 และเลข 60 - 06 ส่งท้ายปีเก่า 2560 นอกจากนี้มีเลข  43-46-47-48 ส่วนที่ร้านค้าจำหน่ายรายใหญ่ที่มีประมาณ 10 ร้าน พบว่าไม่จำหน่ายเกินราคา บางร้านมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษสวนกระแสสลากฯแพง ด้วยการจำหน่ายในราคาใบละ 75 บาท จำนวนไม่เกิน 10- 20 ฉบับ 

นายทองใบ ขอสงวนนามสกุล อายุ 55 ปี ราษฎร อ.วังสะพุง จ.เลย บอกว่า  การที่พ่อค้าแม่ค้ารายย่อมยอมเสี่ยงผิดกฎหมายจำหน่ายเกินราคา เพราะพ่อค้าแม่ค้าสลากรายย่อยไปรับมาในราคาที่สูงจากยี่ปั้ว จึงจำเป็นต้องจำหน่ายเกินราคาซึ่งการขายเกินราคานั้นก็ไม่ได้กำไรอะไรมาก ส่วนใหญ่กำไรอยู่ที่ใบละ 5-10 บาท และอีกเหตุผลคือรับมาได้คนละไม่กี่เล่มทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อครอบครัว ซึ่งหากอยากจะแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคานั้น โดยส่วนตัวมองว่าควรแก้ที่ต้นเหตุมากกว่าปลายเหตุ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าโควตาและการกระจายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งพิมพ์จำหน่ายถึงงวดละ 70 ล้านฉบับ มาถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้ายจำเป็นต้องซื้อสลากราคาแพงถึงฉบับละ 100-200 บาท การแก้ปัญหาจึงต้องทำความเข้าใจระบบการกระจายสลาก และการกำหนดราคาของผู้ขายแต่ละขั้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ช่วงนี้เหลือเวลาหลายวันก่อนที่หวยจะออก บรรยากาศการซื้อขายลอตเตอรี่เป็นไปแบบไม่คึกคักเท่าที่ควร ประชาชนเดินทางมาหาเลือกซื้อเลขดังเป็นส่วนมาก ถ้าพบว่ามีราคาใบละ 100 - 150 บาท จะขอซื้อแบบแยกชุดบางร้านก็แยกให้ บางร้านไม่แยกให้ เพื่อเสี่ยงโชคกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้คนที่เสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ยังกลัวว่าเมื่อซื้อไปแล้วจะได้ลอตเตอรี่ปลอมจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และหวั่นว่าถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยมาจากคนอื่นจึงต้องมีการเซลฟี่กับคนขายด้วย.