แม่ นศ.ฝึกงาน ซัดอาจารย์ สั่งลูกกราบเท้า จนท.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งฯขอนแก่น   


10 กุมภาพันธ์ 61 22:29:04

แม่นักศึกษาฝึกงาน ซัดอาจารย์ สั่งลูกกราบเท้า จนท.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ หลังถูกซักถามรายละเอียดต่อหน้า แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะกลัวไม่ผ่านฝึกงาน ด้านครอบครัว หวั่นไม่ปลอดภัย หลังมีคนตามหาที่พัก ...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น นางน้อมจิตต์ ยศปัญญา อายุ 52 ปี มารดาของ น.ส.ปนิดา ยศปัญญา อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ร้องเรียนเรื่องที่ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ให้ทำข้อมูลในเอกสารช่วยเหลือประชาชน ทั้งเอกสารของผู้ยากไร้ ผู้ป่วยเอดส์และส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งให้ปลอมลายมือชื่อของประชาชนในใบเสร็จรับเงิน กว่า 2,000 ชุด ในช่วงที่เข้าฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ ว่า หลังจากเรื่องร้องเรียนถูกเสนอออกไปสู่สังคม ผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจ และเชื่อว่าลูกสาวจะได้รับความเป็นธรรม เพราะสิ่งที่ทำลงไป ทำเพราะถูก ผอ. และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสั่งให้ทำ

นางน้อมจิตต์ กล่าวต่ออีกว่า แต่สิ่งที่ไม่ประทับใจ และรับไม่ได้ คือการที่ ลูกสาวกับเพื่อนอีก 3 คน นำเรื่องที่พบเห็นและเกิดขึ้นในขณะฝึกงานไปบอกกล่าวกับทางอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กโกหก ในขณะเดียวกันเวลาพูดคุย ซักถามรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นขณะฝึกงาน กลับถามต่อหน้าเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พึ่งพาฯ ซึ่งเป็นคนสั่งให้ลูก และเพื่อนทำการปลอมลายมือชื่อชาวบ้าน ลูกสาวและเพื่อนไม่กล้าพูดความจริงต่อหน้าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะฝึกงานไม่จบ จึงไม่มีใครพูด อาจารย์ซึ่งเป็น หน.ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จึงสั่งให้ลูกสาวและเพื่อนกราบเท้าขอโทษเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว

"แม่ไม่พอใจมากๆ เป็นอาจารย์แท้ๆ ไม่ปกป้องลูกศิษย์ตัวเอง การตรวจสอบยังไม่เกิดขึ้น ก็ตัดสินว่าลูกศิษย์ตัวเองเป็นฝ่ายผิด เป็นเด็กโกหก มันน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ให้เด็กกราบเท้า" นางน้อมจิตต์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ปนิดา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในศูนย์ฯ และที่บ้าน ผอ. ได้นำเรื่องไปเล่าสู่อาจารย์ที่ มมส. ฟังเรื่อยมา แต่สุดท้ายกลับถูกอาจารย์กล่าวหาว่าเป็นเด็กโกหก และถูกอาจารย์ ซึ่งเป็น หน.ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา สั่งให้กราบเท้า นางวราภรณ์ อบมา เจ้าหน้าที่คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นครูภาคสนาม ที่ดูแลการฝึกงานของตนและเพื่อนๆ และเป็นอีกคนที่สั่งให้กรอกเอกสารต่างๆในบ้าน ผอ.

ในส่วนของการร้องเรียนนั้น ช่วงที่ฝึกงานใกล้จบ ผู้ตรวจราชการของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่ตรวจงานที่ศูนย์ฯ ตนและเพื่อนอีก 3 คน จึงยื่นเรื่องร้องเรียนโดยตรง แต่ก็ไม่คืบหน้า จึงเข้าร้องเรียนต่อ เลขาฯ คสช. ซึ่งช่วงที่ร้องเรียน เลขาฯ คสช. ป.ป.ช. ป.ป.ท.นั้น เพื่อนอีก 3 คน ไม่ร่วมด้วย จึงปรึกษากับพ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ครอบครัวจึงเห็นว่า ให้เดินหน้าร้องเรียนเพียงคนเดียว เพื่อเรียกร้องความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง

"ทุกอย่างที่ทำ ก็เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองและเพื่อประชาชนตามสิทธิที่ควรพึงจะได้ เพราะถ้าเราไม่ปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ทำเพื่อสังคม เราจะเป็นนักพัฒนาที่ดีได้อย่างไร เรียนมาด้านนี้ และเข้าฝึกงานที่ศูนย์ฯ ก็เพราะต้องการเป็นนักพัฒนาที่ดี เรียนจบออกไปทำงานเพื่อสังคมและประชาชนผู้ยากไร้อีกหลายล้านคน" น.ส.ปนิดา กล่าว

น.ส.ปนิดา ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่เดินหน้าร้องเรียน ควบคู่กับการเรียน และการทำวิจัย เพราะเรียนอยู่ปีที่ 4 แล้ว พอเกิดเรื่อง ผอ.ศูนย์ฯ ก็ตระเวนตามหาตัว หาบ้าน ไปที่มหาวิทยาลัย เพื่อขอทราบบ้านพักอาศัย ขอทราบที่อยู่ พ่อ แม่ ซึ่งไม่ทราบเจตนาของการค้นหาว่า ต้องการอะไร แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าจะไม่ปลอดภัย และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ในเรื่องความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัวด้วย

และจะนำเรื่องทั้งหมดแจ้งให้ เลขาฯ ป.ป.ท.ทราบทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ ( 11 ก.พ.) ซึ่งเลขาฯ ป.ป.ท.จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็จะร้องขอความคุ้มครองความปลอดภัยด้วย.

ที่มา https://www.thairath.co.th/content/1200933

ข่าวที่เกี่ยวข้อง







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS