ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 4 บ้านท้องเกร็ง หมู่ 4 ตำบลด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร บรรดาลูกๆ ของนางหนาม หนูอิ่ม อายุ 91 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยโรคชราเดินและเป็นอัมพฤกษ์ซีกขวาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยาง
แต่นางหนามมีอาการทางร่างกายดีขึ้นหลังได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สามารถพูดได้เป็นปกติหลังจากพูดไม่ได้มากว่า 9 เดือน สร้างความสุดดีใจแก่บรรดาลูก หลาน เหลน และญาติๆ เป็นอย่างมาก
จากการสอบถาม นางวินิจ หีดฤทธิ์ อายุ 61 ปี ลูกสาว เล่าว่า แม่นอนป่วยมาประมาณ 9 เดือนแล้ว ด้วยโรคชราสภาพร่างกายซีกขวาเป็นอัมพฤกษ์แขนขาอ่อนแรงไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ลิ้นแข็งพูดไม่ได้ตั้งแต่มีอาการป่วย
จนเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 ได้มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสวี เดินทางมาที่บ้านพร้อมกับได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นซิโนแวค เข็มแรกให้ ไม่นานเห็นพัฒนาการทางร่างกายโดยสังเกตเห็นว่าปากสามารถเริ่มขยับและพูดได้บ้างเล็กน้อย
ลูกสาวของนางหนาม เล่าอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสวีได้มาฉีดเข็ม 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันแม่มีอาการดีขึ้นและสามารถพูดเป็นประโยคเป็นคำได้ชัดเจน
ซึ่งตนเองและญาติๆ ลูก หลาน เหลน ที่มาคอยเฝ้าดูอาการ สุดจะดีใจเพราะไม่คาดคิดว่าอาการจะกลับมาดีขึ้นมาก บรรดาลูกๆ จึงเชื่อว่าการที่แม่พูดได้และแขนมีแรงขึ้นนั้นมาจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามทดลองพูดคุยสอบถามแม่เฒ่า วัย 91 ปี ก็สามารถพูดได้ชัดเจน พร้อมทั้งชูนิ้วพูดลั่นว่าสู้ๆ และนอนยกมือฟ้อนรำมโนราให้ดูด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อสอบถามว่าขอเลขเด็ดลูกหลานหน่อยจะไปซื้อลอตเตอรี่ แม่เฒ่าบอกว่า “531”