ขอนแก่น รอง ผบ.ตร.แถลงลำดับเหตุการณ์ก่อนปะทะคนร้ายชิงทอง (มีคลิป)
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาปล้นร้านทองเยาวราช ที่ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา หลังล่าสุดจับกุมได้ครบทุกคนรวม 3 คน พร้อมทองคำรูปพรรณที่พบในกระเป๋าผู้ต้องหา 86 เส้น ขณะที่อาการของ 1 ในคนร้ายที่ก่อเหตุยิงปะทะกับตำรวจอยู่ระหว่างการผ่าตัดช่วยชีวิต พร้อมกันนี้ตำรวจที่ยิงปะทะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ส.ค.2563 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ยิงปะทะกับ นายรังสรรค์ วิเศษดินทอง อายุ 36 ปี ชาว ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นร้านทองที่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบึงกาฬ ภายในศูนย์การค้าห้างเทสโก้โลตัส ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา โดยนายรังสรรค์ โดนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งอาการล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นกำลังทำการผ่าตัดช่วยชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงปะทะในเหตุการณ์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย ซึ่งพบทองคำรูปพรรณในกระเป๋าสะพายของนายรังสรรค์จำนวน 86 เส้น เป็นสร้อยคอทองคำยังไม่ทราบน้ำหนักจำนวน 20 เส้น และ สร้อยข้อมือทองคำยังไม่ทราบน้ำหนักจำนวน 66 เส้น และอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ของนายรังสรรค์
ในเวลาต่อมาทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ทำการสอบสวนนางสาวศศิธร อุดมลาภ อายุ 25 ปี ชาว ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ภรรยาของนายรังสรรค์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมกันปล้นร้านทอง พร้อมทั้งเชิญเจ้าของร้านทองในจังหวัดขอนแก่น มาตรวจสอบทองคำรูปพรรณที่ตรวจยึดได้จากในกระเป๋าสะพายของนายรังสรรค์ ว่าเป็นของจริงหรือปลอม แต่ยังไม่ได้ทำการตรวจนับน้ำหนักทอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงกาฬเพื่อนับจำนวนน้ำหนักของทองคำทั้งหมดร่วมกับเจ้าของร้านทองผู้เสียหายต่อไป ซึ่งภายหลังจากทำการสอบสวน น.ส.ศศิธร ภรรยาของนายรังสรรค์ เบื้องต้นเสร็จ จึงได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่จังหวัดขอนแก่น
โดย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยการจับกุมว่า สืบเนื่องจากคืนวันที่ 31 ก.ค. มีคนร้ายเป็นชายคือนาย เฉลิมพงศ์ เพชรตะกั่ว ชาวต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เข้ามาก่อเหตุปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบึงกาฬ ภายในศูนย์การค้าห้างเทศโก้โลตัส ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ คาดว่าได้ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักรวมไปกว่า 90 บาท มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท และมีบางส่วนตกหล่นอยู่ตามพื้นภายในร้านและในตู้กระจก และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บึงกาฬสามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างทันควันซึ่งให้การว่านำทองคำทั้งหมดให้กับนายรังสรรค์ และ น.ส.ศศิธร 2 สามีภรรยา
ซึ่งทางตำรวจได้สืบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาอีก 2 รายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพบว่าเช่าห้องพักอยู่ภายในหอพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยใช้บัตรประชาชนของคนอื่นในการใช้เช่าห้อง กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 4 แกะรอยจนพบนายรังสรรค์กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงแสดงตัวบอกให้ผู้ต้องหาหยุด แต่นายรังสรรค์ คว้าปืนพกสั้นยิงสวนเพื่อเปิดทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงป้องกันตัวและเกิดการปะทะกันกว่า 10 นัด ทำให้นายรังสรรค์ถูกยิงเข้าที่ศีรษะล้มลงบนฟุตบาทพร้อมของกลางทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอีกทีมได้ลงพื้นทนี่ไปนำตัว น.ส.ศศิธร ภรรยาของนายรังสรรค์มาสอบสวนดังกล่าว เบื้องต้น น.ส.ศศิธรให้การว่า ตัวเองทำหน้าที่มาดูลาดเลาล่วงหน้าให้กับนายรังสรรค์ และวางแผนร่วมกันทั้ง 3 คน โดยนายเฉลิมพงศ์เป็นคนเข้าไปก่อเหตุปล้นทองมา และนำทองมาให้กับนายรังสรรค์ แต่ไม่รู้เห็นเรื่องการขายทองแต่อย่างใด
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมให้ครบทุกประเด็น ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเจ้าของร้านทองผู้เสียหายมานับทองว่าตรวจยึดกลับคืนได้เป็นจำนวนน้ำหนักทองเท่าไหร่และที่หายไปมีเท่าไหร่ ก่อนจะนำของกลางทั้งหมดพร้อมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงกาฬดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอนแก่น ด่วน! ตำรวจยิงปะทะคนร้ายชิงทอง คนร้ายเจ็บสาหัส
