ขอนแก่น โจรปล้นปุ๋ย ลุงวัย 62 ปี อยู่อย่างผวา (มีคลิป)
ลุงวัย 62 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ต้องอยู่อย่างผวา หลังถูกคนร้าย 3 คน สวมหมวกไอ้โม่งขับรถยนต์กระบะลงมาใช้อาวุธจี้ ข่มขู่ให้หมอบกับพื้นแล้วห้ามมอง ก่อนจะเข้าไปปล้นเอาปุ๋ยเพื่อการเกษตรไป 4 กระสอบ แล้วขับรถหลบหนีไปโดยไม่ได้ถามหาทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ส.ค.2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่นาของนายคำผาย โสโสม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.12 บ้านหนองกุงน้อย ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยลุงคำผายพาผู้สื่อข่าวสำรวจดูจุดที่มีคนร้าย 3 คน ขับรถยนต์กระบะ สีบลอนด์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ลงมาจากรถใช้อาวุธจี้หลังแล้วบังคับให้หมอบกับพื้น ห้ามมอง ห้ามสบตา แล้วก่อเหตุปล้นเอาปุ๋ยจำนวน 4 กระสอบจากนายคำผายไป โดยเหตุการณ์เกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นายคำผาย ซึ่งยังอยู่ในอาการผวา เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เวฬุวันแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงพื้นที่มาตรวจจุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุนั้นเคยอาศัยอยู่กับภรรยาในกระท่อมที่นามากว่า 30 ปีแล้ว แต่ขณะนี้ภรรยาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ จึงย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน และเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนเองเสร็จงานในที่นาจึงเข้าบ้านไปหาภรรยา จากนั้นเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมานอนเฝ้านาและเฝ้าควาย รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งรถไถและอุปกรณ์การเกษตรอีกหลายอย่าง เมื่อถึงเถียงนาขณะกำลังจอดรถจักรยานยนต์ โจรก็ขับรถกระบะ ซึ่งเปิดเพียงไฟหรี่ มาจอดที่หน้าเถียงนา คนร้ายได้ลงมาจากรถแล้วถามว่ามึงมองหน้ากูทำไม โดยคนร้ายที่ถามสวมหมวกไหมพรมไอ้โม่ง สูงประมาณ 170 ซม. และเดินเข้ามาหาตนเอง ก่อนจะเอาอาวุธที่คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนมาจี้ที่หลังและบังคับให้หมอบลงกับพื้นดิน และสั่งห้ามมอง ด้วยความกลัวถูกฆ่าตายจึงทำตาม ซึ่งคาดว่าจะมีคนร้ายที่มาด้วยกันทั้งหมด 3 คน โดยมีคนขับ 1 คน และลงจากรถมา 2 คน ก่อนจะพากันแบกเอากระสอบปุ๋ย รวม 4 กระสอบใส่กระท้ายรถกระบะแล้วรีบขับออกไปทันที เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบลุกขึ้นและมองดูไฟหน้ารถที่ส่องตามถนนเห็นว่าคนร้ายขับรถออกไปทางบ้านค้อ ซึ่งสามารถออกมายังถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่นได้
นายคำผาย กล่าวอีกว่าจากเหตุการณ์ที่ถูกโจรมาปล้นเอาปุ๋ยไปทั้งหมด 4 กระสอบนั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีคนในพื้นที่รู้เห็นด้วย และเชื่อว่าน่าจะเอาไปใช้เองหรือเอาไปขายต่อในราคาถูกเพราะปุ๋ยที่ซื้อมาทั้งหมดนั้น ภรรยาซื้อมาในช่วงที่ยังไม่ป่วยในราคากระสอบละ 780 บาท เพื่อเตรียมใส่ในนาข้าวและไร่มันสำปะหลัง แต่ก็ถูกโจรปล้นเอาไป ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ตั้งใจมาปล้นเอาปุ๋ยโดยเฉพาะ เพราะโจรรายดังกล่าวไม่ถามถึงทรัพย์สินอื่นๆ แต่มุ่งหน้าไปขโมยปุ๋ยเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ยังกลัวและผวาไม่หายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้จะเอาควาย และสิ่งของสำคัญเข้าไปเก็บและนอนที่บ้าน เนื่องจากเกรงว่าโจรจะย้อนกลับมาปล้นเอาควายและทำร้ายตนเองจนเสียชีวิตก็เป็นได้ หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เวฬุวัน ให้มีการสืบสวนจับกุมโจรที่มาปล้นปุ๋ยในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
