น้ำหนาวหนาวแล้ว นักท่องเที่ยวแห่ชมผาคิงคอง ชิมหลามปลาช่อน-ข้าวหลามธัญพืช (มีคลิป)
น้ำหนาวหนาวแล้ว นักท่องเที่ยวแห่ชมผาคิงคอง ชิมหลามปลาช่อน-ข้าวหลามธัญพืช ของดีเมืองน้ำหนาว รับช่วงไฮท์ซีซั่น ขณะที่ชุมชนเผยเตรียมลานกางเต็นท์รองรับนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสอากาศหนาว และวิถีชุมชนแล้วอย่างครบรส
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 22 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักท่องเที่ยวจากพื้นที่จังหวัดต่างๆต่างยังคงทยอยมาชมความสวยงามของผาคิงคอง จุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเส้นทาง ขอนแก่น-คอนสาร-น้ำหนาว ช่วง บ.โคกยาว ต.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงของการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้เป็นวันแรก โดยมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ได้จัดเตรียมสถานที่ โดยเฉพาะจุดจอดรถ จุดจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก จุดจำหน่ายอาหารประจำถิ่นที่ขึ้นชื่อ รวมทั้งมุมถ่ายภาพของจุดชมวิวที่สวยงามหาชมได้ยาก โดยมีมัคคุเทศก์ตัวน้อยที่เป็นเด็กๆในชุมชน ต่างแนะนำจุดชมวิวที่มีลักษณะเหมือนคิงคอง ที่สวยสดงดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย พร้อมกับการทำท่าคิงคองให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมและบันทึกภาพแห่งความประทับใจ และที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนชุมชน บ.โคกยาวแห่งนี้จะต้องลองทำและชิมรสชาติของหลามปลาช่อนจากกระบอกไม้ไผ่ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของชุมชนแห่งนี้อีกด้วย
นางนวลละออง สถานพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ.โคกยาว บอกว่า จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดพักรถและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและโดดเด่น จัดเป็นจุดชมวิวในพื้นที่ที่เรียกว่าประตูทางเข้าของเขต อ.น้ำหนาว ซึ่งขณะนี้ชุมชนได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ขณะนี้เริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่ เพื่อมาสัมผัสกับความหนาวเย็น มาพักผ่อนหย่อนใจ ในชีวิตของคนในชนบทแบบสโลว์ไลฟ์ มาชิมอาหารประจำถิ่นที่หาชมได้ยาก ซึ่งจุดชิมวิวผาคิงคอง ปัจจุบัน สามารถรอบรังนักท่องเที่ยวได้ครั้งละกว่า 100 คน ซึ่งทางอำเภอร่วมกับชุมชนได้ทำสะพานไม้ไผ่และระเบียงไม้ไผ่ที่คงทนสวยงามไว้ให้กับนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกับวิวหลักล้าน และยอดเขาที่สูงชันที่มีลักษณะคล้ายกับคิงคอง ที่เป็นสัญลักษณ์และจุดเด่นของพื้นที่ที่สามารถมาชมได้ทุกวันและทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ
“จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวที่แวะจุดชมวิวของชุมชนเราแล้วนั้นนอกจากจะบันทึกภาพแห่งความประทับใจที่หาชมได้ยากแห่งหนึ่งของเมืองไทยแล้ว ยังคงไม่พลาดที่จะชิมอาหารประจำถิ่นที่จุดบริการนักท่องเที่ยวที่ชุมชนได้ร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งจุดพักรถและพักคน มีห้องน้ำไว้บริการตลอดทั้ง 24 ชม. ซึ่งจากการเปิดให้บริการมานั้นพบว่าส่งที่ได้รับความนิยมและสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมากคือเมนูอาหารประจำถิ่น คือหลามปลาช่อนและหลามปลานิล ที่ชาวบ้านจำหน่ายนราคาบ้องไม่ไผ่ละ 150 บาทเท่านั้น ด้วยวิธีทำจากพ่อครัวพื้นบ้าน ที่นำวัตถุดิบจากชุมชน ไม่ว่าจะเป็นปลาช่อนนาที่หาได้ตามท้องนาและแหล่งน้ำในชุมชน หรือบาทีอาจจะใช้ปลานิลมาทดแทน ขณะที่เครื่องปรุงก็นำมาจากชุมชนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ข่า-ตะไคร้-พริกแห้ง-หอมแดง-ใบมะกรูด ที่ทั้งหมดนำมาตำรวมกันไม่แหลกมากนัก จากนั้นนำปลาช่อนหรือปลานิลที่หามาได้ ขอดเกล็ดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย มาคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศจนได้ที่ จากนั้นนำไปปรุงรสด้วยน้ำปลา และผงปรุงรส ก่อนที่จะนำไปบรรจุใส่กระบอกไม้ไผ่ที่หามาสดๆจากชุมชน เติมน้ำลงไปในระดับพอดี ใส่ใบกระเพรา ต้นหอม ผักชีเข้าไป และปิดฝากระบอกไม้ไผ่ด้วยใบเตย จากนั้นนำไปเผาไฟประมาณ 20 นาที ก็จะได้หลามปลาที่อร่อย หาชิมได้ยาก รสชาติกลมกล่อมจากความสด ความหวานของเนื้อปลา เครื่องเทศที่ผสมกันอย่างลงตัว รวมกับความหวานของเยื่อไผ่สดๆจึงทำให้หลามปลานั้นอร่อย กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และหากท่านใดชอบความขมก็ใส่ขี้ปลาเข้าไปด้วยก็จะได้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบเลยทีเดียว”
นางนวลละออง กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีข้ามหลามธัญพืช ที่เป็นเมนูชื่อดังสำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องมาลิ้มลอง ควบคู่ไปกับของฝากขึ้นชื่อของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเสาวรส,มันม่วงและมันเทศ ที่ขายกันในราคาเริ่มต้นที่ถุงละ 20 บาทเท่านั้น และด้วยการที่น้ำหนาว เป็นเมืองที่ได้รับการส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ที่ให้บริการที่พักกับนักท่องเที่ยวในรูปแบของโฮมเสตย์และลานกางเต็นท์ ซึ่งที่ชุมชนโคกยาว ก็ได้จัดพื้นที่ลานกางเต็นท์ ที่ใกล้กับผาคิงคองแห่งนี้ ซึ่งสามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ในจำนวนที่จัด โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับการสนับสนุนชุมชนและบำรุงสถานที่ โดยคิดค่าใช้จ่ายเพียงเต๊นท์หลังละ 100 บาท และหากต้องการเตาและถ่ายชุมชนมีให้บริการชุดละ 50 บาท หรือหากต้องการให้ชุมชนจัดเตรียมเต็นท์,ชุดเครื่องนอน,เตาย่าง รวมทั้งอาหารเช้าก็มีให้บริการชุดละ 250 บาท โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยอำนวยความสะดวกและให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่จุดบริการนักท่องเที่ยวแห่งนี้ตลอดทั้ง 24 ชม.อีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 095-6537904
