ขอนแก่น คืบหน้าปลอมเฟซบุ๊กปลัดอบจ.หลอกโอนเงิน (มีคลิป)
ความคืบหน้ากรณีมีคนร้ายปลอมเฟซบุ๊กเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หลอกลวงเหยื่อทักขอยืมเงินอ้างว่าแอบพลิเคชันธนาคารล่มไม่สามารถโอนได้ ทำให้มีผู้เสียหายถูกหลอกหลงเชื่อเสียเงินไปแล้วหลายราย ล่าสุด ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ดตามหาจนเจอตัวคนร้าย พบทำเป็นขบวนการ หอบหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2564 ที่สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น น.ส.ชนิสรา ปลื้มบุญญารท อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369/66 หมู่ที่ 21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ด นำเอกสาร หลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการถูกหลอกให้โอนเงิน 2 ครั้ง มามอบให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ ตุ้มฉิม รองผกก.สอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน และจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.ชนิสรา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า กรณีของการแจ้งความในครั้งนี้ เป็นการแจ้งความเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา มีการแจ้งไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มอบหลักฐานและยังไม่ทราบตัวบุคคล แต่ขณะนี้ทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแล้ว จึงนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจ เพื่อให้ทำการสืบสวนจับกุมคนร้ายกลุ่มดังกล่าว เพราะเชื่อว่าไม่ได้เพียงคนหรือสองคนแต่เชื่อว่าทำการเป็นขบวนการ
เนื่องจากเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนใช้เฟซบุ๊กของนางพัฒนาวดี วิริยปิยะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นการปลอมเฟซบุ๊กโดยใช้ภาพของปลัดเป็นโปรไฟล์ ทักขอยืมเงินโดยอ้างว่าแอพพลิเคชั่นโอนเงินมีปัญหาขอยืมเงินโอนให้ก่อน แล้วจะโอนคืน และด้วยความเข้าใจว่าเป็นปลัดอบจ.ขอนแก่น จริง จึงรีบโอนเงินให้ตามคำสั่งไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ เลขบัญชี 5867184268 ชื่อ นริศรา รุ่งกุล จำนวน 2 ครั้งๆแรกจำนวน 4,500 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 9,000บาท ส่วนครั้งที่ 3 คนร้ายสั่งให้โอนอีก 9,000 บาท แต่ไม่โอน เพราะตัดสินใจโทรถามปลัด จนทราบความจริงจากปลัก อบจ.ขอนแก่นว่า เฟซบุ๊กที่ทักมานั้น มีคนปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกโอนเงิน จึงรีบเข้าแจ้งความ
หลังทราบว่าโดนหลอก จึงสืบเสาะหาข้อมูลตามชื่อ นริศรา รุ่งกุล จนพบว่า อยู่ที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ที่ 13 บ้านโนนโพธิ์ไทรตำบลโนนทัน อำเภอหนองเรือ ขอนแก่น จึงขับรถไปตามหาตามที่อยู่ดังกล่าว และเข้าไปสอบถามที่บ้านผู้ใหญ่บ้านแต่ผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ จึงไปแวะซื้อน้ำที่ร้านค้าในหมู่บ้าน โดยที่เจ้าของบัญชีปลายทางที่รับโอนเงินนั้นก็ยืนต่อแถวอยู่ข้างหลังเพื่อซื้อน้ำ โดยตนเองยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ก้ได้สอบถามเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่ารู้จักชื่อนี้หรือไม่ ผู้ช่วยจึงโทรศัพท์ถามผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะหันไปถามคนที่ต่อแถวรอซื้อน้ำข้างตนเองว่าใช่บ้านเปรี้ยวหรือเปล่า ซึ่ง น.ส.เปรี้ยวก็บอกว่าเป็นบ้านตัวเอง ทำให้ได้พบกับนางสาวเปรี้ยว หรือ น.ส.นริศรา รุ่งกุล เจ้าของเลขบัญชีที่ได้โอนเงินเข้าไปให้ จึงได้สอบถามข้อมูล นางสาวเปรี้ยว ยอมรับว่า เป็นเจ้าของบัญชีจริง ได้เปิดบัญชีที่ธนาคารดังกล่าว แต่ได้มอบสมุดบัญชีพร้อมเอทีเอ็มให้พี่สาวที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือนำไปใช้ จากนั้นได้มีการพูดคุยกับพี่สาวของนางสาวเปรี้ยว ซึ่งพี่สาวบอกว่า จะคืนเงินให้ทุกบาท แต่อย่าเอาเรื่องและอย่าแจ้งความ เพราะไม่อยากถูกจับ ถ้าถูกจับและน้องสาวมีปัญหาจะเอาเรื่องคืน จากนั้นบอกพี่สาวก็โอนเงินที่เอาไปมาคืนให้ จึงได้รับเงินคืนมาครบทุกบาทแล้ว แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า นางสาวเปรี้ยวและพี่สาวไม่ได้ทำเพียง 2 คน จึงนำหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาพบตำรวจ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
น.ส.ชนิสรา กล่าวอีกว่า การแจ้งความในคดีดักล่าวนั้น ในเบื้องต้นทราบว่า มีเพื่อนในเฟซบุ๊กของปลัด อบจ.ขอนแก่น ถูกหลอกหลายราย และปลัด อบจ.ขอนแก่นก็เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วที่สภ.เมืองขอนแก่น ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็แจ้งความในพื้นที่ ที่ตัวเองอาศัยอยู่เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลัด อบจ.ขอนแก่น วอนตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายปลอมเฟซบุ๊กหลอกโอนเงิน (มีคลิป)
