เบื้องลึก 'ซิโก้' เซ็นสัญญากลืนเลือด ป้องขุมทรัพย์ 100 ล้าน   


8 มีนาคม 60 12:05:35

เวลานี้แฟนบอลบางส่วนคงกำลังยินดีปรีดากับข่าวที่ว่า “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทีมชาติไทยออกไปอีก 1 ปี ได้ลุ้นพาทีมไปลุย เวิลด์ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งแน่นอนว่าตรงกันข้ามกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าระหองระแหงกับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

     ประเด็นยืดเยื้อที่มีการถกกันก่อนสะบัดน้ำหมึกก็คือเรื่องภาษีหรือรายได้หนีไม่พ้นเงินๆ ทองๆ ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังว่าค่าเหนื่อยที่ “โค้ชซิโก้” ได้รับนั้นเพิ่มขึ้นจากเดิมเดือนละ 1.6 ล้านบาทเป็นเดือนละ 2 ล้านบาท หากครบ 12 เดือนก็ฟันไป 24 ล้านบาท แม้ว่าจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 3 รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ก็ตาม ส่วนทีมงานรวมถึงสต๊าฟฟ์นั้นไม่อาจประเมินได้ว่ารับกันคนละเท่าไหร่

     ตัวเลขที่กล่าวมาแล้วนั้นถือว่าน้อยนิดเมื่อเทียบกับรายได้ที่เข้ากระเป๋าก่อนหน้านี้หรือกำลังจะตามมาจากบรรดาสปอนเซอร์และเงินอัดฉีดต่างๆ อีกอย่างน้อย 1 ปีนับจากนี้ เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ซิโก้” มีบริษัทที่ชื่อว่า สปอร์ต ฮีโร่ เพราะหากไม่ยอมตามที่สมาคมฯ ตั้งเงื่อนไขเท่ากับว่าสิ่งที่จะสูญเสียไปนั้นมหาศาลขนาดไหน ซึ่งทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเซ็นสัญญาในที่สุด ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการยื่นข้อตกลงต่างๆ มากมาย ที่สำคัญเลยคือการเซ็นสัญญาว่าจ้างโค้ชนั้นเกิดขึ้นกับบริษัท สปอร์ ฮีโร่ จำกัด ไม่ใช่เจ้าตัวโดยตรงนั้นมีใครทำกันบ้าง

     เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกับ บริษัท สปอร์ต ฮีโร่ จำกัด เป็นอย่างดี เพราะเข้ามามีบทบาทกับวงการฟุตบอลไทยได้พักใหญ่ เพราะเริ่มจดทะเบียนก่อตั้งตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการจัดการ จัดการแข่งขันกีฬาทุกชนิด ประกอบกิจการผลิต จำหน่าย นายหน้าและตัวแทนสื่อโฆษณาทุกชนิด มีนางอัสราภา เสนาเมือง ถือ 52% นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 48% และเป็นกรรมการ โดยแจ้งผลประกอบการปี 2556 รายได้ 24,950,849 บาท ทว่าในปี 2558 กลับมีรายได้พุ่งสูงเป็นเท่าตัวกว่า 44,880,000 บาท

     สปอร์ตฮีโร่ เคยรับงานจาก สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร 2 ครั้ง ครั้งแรก ผลิตสื่อการเรียนการสอนฟุตบอลขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,995,550 บาท และครั้งที่สอง จ้างดำเนินการโครงการสถาบันสอนฟุตบอลกรุงเทพมหานครขั้นก้าวหน้า จำนวน 1,808,360 บาท ส่วนผลงานอื่น อาทิ ผู้ให้การสนับสนุนหลักกิจกรรมฟุตบอล “ไทยพรีเมียร์ลีก” ฟุตบอลนักเรียนชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี สถาบันสอนฟุตบอลกรุงเทพมหานคร การแข่งขันตะกร้อ ไทยแลนด์ลีก ปี 2552 (เจ้าภาพ-กรุงเทพมหานคร) คลินิคฟุตบอลซิโก้ทิปส์ ทั่วประเทศไทย รายการโทรทัศน์ ซิโก้ทิปส์ ฯลฯ

     นอกจากนี้ยังมี บริษัท นายสิบสาม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการจัดการ จัดการแข่งขันกีฬาทุกชนิด มีนางอัสราภา เสนาเมือง ถือ 9,499 หุ้น ( 94.99% ) นายตะวัน ศรีปาน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไย 500 หุ้น (5%) และ นางสาว พิสมัย พรมนาก 1 หุ้น นายตะวัน ศรีปาน นายโชคทวี พรหมรัตน์ นางอัสราภา เสนาเมือง เป็นกรรมการ ไม่มีรายได้หลายปีติดต่อกัน

     “ซิโก้” กับเพื่อนอดีตนักเตะทีมชาติ ยังได้ร่วมถือหุ้นธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ บริษัท ฮองอัน ยาลาย (กรุงเทพ) จำกัด จดทะเบียนวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ทุน 105 ล้านบาท มีฮองอัน คอนสตรัคชั่น คอมพานี ลิมิเต็ด สัญชาติเวียดนาม ถือหุ้นใหญ่ 493,500 หุ้น (47%) นายตะวัน ศรีปาน 127,501 หุ้น (12.14%) นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล 126,000 หุ้น (12%) นายอานุภาพ ทัดพิทักษ์กุล 119,999 หุ้น (11.42%) นายดุสิต เฉลิมแสน (อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย) 82,000 หุ้น (7.80%) นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 80,000 หุ้น (7.6%) นายเก่า ยุย เถิ่น นายด่วน เหงียน ดึ้ก สัญชาติเวียดนาม คนละ 10,500 หุ้น (1%) นายด่วน เหงียน ดึ๊ก น.ส.เล ถิ กิม เงิน น.ส.สู่บุญ บุณยรัตนพันธุ์ นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล และ นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นกรรมการ

     ปัจจุบัน “ซิโก้” ยังรับถ่ายโฆษณาให้กับสินค้ามากมาย รวมทั้งยังเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ให้แก่สินค้าหลักๆ อย่างน้อย 4 ตัว ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง, ยาลดไข้, เครื่องดื่มซุปไก่ และแบรนด์แอสบาสเดอร์ (ในเมืองไทย) ให้ทีมเลสเตอร์ซิตีแห่งพรีเมียร์ลีก เป็นเวลา 3 ปี แม้ว่าไม่มีการเปิดเผยค่าตัวครั้งนี้ และค่าตัวของสินค้าอีก 3 ชนิด คาดกันว่ารวมแล้วหลักสิบล้านบาทแน่นอน

     เมื่อเทียบกับนักเตะดังของเมืองไทยในยุคนี้ อย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้รับการคัดเลือกเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ สินค้าหลายตัว เช่นเดียวกับ ชาริล ชัปปุยส์ ขวัญใจสาวๆ มหาชน ที่เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ นาฬิกาหรูยี่ห้อหนึ่ง

     ก็ต้องยอมรับว่าโค้ชมีงานเข้ามามากกว่าสมัยเป็นนักเตะด้วยซ้ำ นอกจากเหตุผลในการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เพื่อต่อยอดความสำเร็จแล้ว ค่าตัว ค่าตอบแทน หยาดเหงื่อ จากความสำเร็จ ของฮีโร่จอมตีลังกา ก็คงเป็นผลพลอยได้ที่ส่งผลดีกับเจ้าตัวไม่น้อยทีเดียว ซึ่งต้องจุดนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวทำได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS