พาไปชม "Northeastern Science Park" นิคมวิจัย ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน @ขอนแก่น
เปิดแล้ว อุทยานวิยาศาสตร์ภาคอีสาน แหล่งค้นคว้าด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างยั่งยืน “ศุภชัย” ปีแรกนักธุรกิจรุ่นใหม่ใช้ฟรี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ส.ค.2561 ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำสื่อมวลชนและนักวิจัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 คน ชมการดำเนินงานและการบริหารจัดการของอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กำหนดจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่ 35 ไร่ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝั่ง ถ.กัลปพฤกษ์ ตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ที่ในขณะนี้การก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จ ด้วยงบประมาณ 458 ล้านบาท (ไม่คิดค่าที่ดิน) และสามารถเปิดให้บริการกับประชาชน นักธุรกิจ และผู้ที่สนใจได้เข้ามาใช้งานที่อุทยานฯแห่งนี้แล้วทั้งระบบ
ศ. ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ศ. ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น หรือ Northeastern Science Park ซึ่งดำเน้นการภายใต้การบริหารจัดการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ จัดเป็นนิคมของการวิจัยในภาคอีสาน ซึ่งเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ ที่รัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนผลงานวิจัยด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค โดยอุทยานแห่งนี้ได้กำหนดพื้นที่ของการรองรับการให้บริการของหน่วยงานราชการ นักวิจัย และภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสมัยใหม่หรือที่เราเรียกว่า "Start Up" ที่สามารถมาขอรับบริการได้ในทุกวัน โดยภายในเขตอุทยานแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น มีพื้นที่ในการให้บริการ 18,000 ตรม. ที่มีการจัดแบ่งให้เป็นห้องประชุม, ห้องทดลองและค้นคว้างานวิจัย มากกว่า 50 ห้อง ห่างจากท่าอากาศยานนาทนาชาติขอนแก่น 6 กม. และห่างจากเขตตัวเมืองขอนแก่น 3 กม. จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะมาใช้บริการในด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมครอบคลุมในทุกกลุ่ม
“วันนี้เรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งรัฐบาลนั้นได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมในการยกระดับนักวิจัยและผู้ที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญในงานด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีอยู่ในระดับภูมิภาคได้มาร่วมเติมเต็ม ร่วมรังสรรค์ผลงาน จนนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนต่อไป อีกทั้งอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งนี้ยังคงเป็นการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง เนื่องจากในพื้นที่อุทยานแห่งนี้ได้มีการจัดตั้งหน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี, โครงการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและวิจัยของภาคเอกชนในพื้นที่ภาคอีสาน, การให้บริการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์, เป็นสถานที่ของการจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการทรัพย์ทางปัญญา ขณะเดียวกันยังคงเป็นสถานที่สำหรับการให้บริการด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกันกับภาคเอกชนในด้านของนวัตรกรรม เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์”
ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวต่ออีกว่า อุทยานฯยังคงเป็นการให้บริการฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานในภาครัฐด้วยการให้บริการการพัฒนาศักยภาพห้องปฎิบัติการสำหรับการให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมและสำนักงานความร่วมมืออุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามในระยะเริ่มต้นได้กำหนดอัตราการใช้บริการอยู่ที่ ตรม.ละ 200 ต่อเดือน โดยที่กลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ หรือกลุ่มธุรกิจ Start up ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นั้นใน ปีแรก สามารถที่จะใช้อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับการดำเนินธุรกิจหรือการเจรจาการค้า รวมไปถึงการค้นคว้าวิจัย หรือการเป็นที่ตั้งสำนักงานของการเป็นธุรกิจแห่งนวัตรกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆอีกด้วย
