อย่างเนียน! ตำรวจขอนแก่นปลอมตัวเป็นชาวนาทำทีเกี่ยวข้าวจับโจรลักทรัพย์
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 วางแผนปลอมตัวเป็นชาวนาทำทีเกี่ยวข้าวหวังเข้าจับโจรลักทรัพย์หลังผู้เสียหายโพสต์คลิปวงจรปิดผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะทิ้งเคียววิ่งไล่ตะครุบกลางทุ่งนา สารภาพอ้างตกงาน ต้องการเงินใช้จ่ายและซื้อยาบ้ามาเสพ พบประวัติเคยก่อเหตุที่อื่นอีก 3 แห่ง
มีกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “Sarayut Sapala” โพสต์ภาพใบหน้าของคนร้ายเป็นชายเข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินภายในร้านค้าขณะที่เจ้าของร้านอยู่หลังร้าน โดยได้โพสต์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ย.2561 พร้อมข้อความระบุว่า “ช่วยแจ้งเบาะแส คนร้าย ชายในภาพ ได้เข้ามาขโมย โทรศัพท์มือถือ ในร้านสะดวกซื้อ บ้านขามเจริญ ในคืนวันที่ 7 พ.ย. เวลา 21.40 น. กล่องวงจรปิด ได้จับภาพไว้ได้ ใครพบเห็นชายผู้นี้ รบกวนแจ้งเบาะแส มายัง สถานีตำรวจ เมืองเก่า หรือแจ้งมาได้ที่ เจ้าของเฟส ได้เลยนะคับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม และไม่ให้ ชายผู้นี้ ไปขโมยของใครอีก ของไม่ได้มีราคาแพงมาก แต่การลักขโมย เป็นสิ่งที่ผิด ทั้งศีลธรรมและกฎหมาย สังคมจะน่าอยู่ขึ้น หากไม่มีบุคคลประเภทนี้อยู่ร่วมกับสังคมเรา ขอบคุณล่วงหน้านะคับ”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายนำภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความที่ สภ.ย่อยเมืองเก่า กระทั่งมีการประสานมายังชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา จึงลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายกระทั่งทราบชื่อคือนายอนุภาพ หลวงพล หรือ นุ๊กเกอร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/5 ถนนเหล่านาดี ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จึงได้รวบรวมพยาน หลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจ.ขอนแก่น ที่468/2561 ลงวันที่ 14 พ.ย.2561 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” เมื่อไปถึงบ้านของผู้ต้องหาทราบว่าได้หลบหนีออกจากบ้านพักไปอาศัยกับแฟนสาวที่ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น จึงได้ประสานทำงานร่วมกับ ตำรวจชุดสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันลงพื้นที่นำหมายศาลเข้าจับกุม โดยได้ใช้วิธีการปลอมตัวเป็นชาวนาทำทีถือเคียวเกี่ยวข้าวอยู่บริเวณกลางทุ่งนาที่ผู้ต้องหาและเพื่อนๆชอบมานอนเล่น เมื่อนายนุ๊กเกอร์ มาถึงจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นายนุ๊กเกอร์ได้วิ่งหลบหนี ทางตำรวจจึงทิ้งเคียวเกี่ยวข้าว วิ่งไล่ตามตะครุบได้อย่างทุลักทุเล เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะตกงานต้องการหาเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมทำการตรวจยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กต 3327 ขอนแก่น คันที่ใช้ก่อเหตุ,กระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ,พระเครื่องหลวงปู่ทวด เลี่ยมทอง พร้อมสร้อยทำจากเชือกสีดำ จำนวน 1 องค์,โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องภายในบ้านพักของเพื่อนผู้ต้องหา ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบสวน ที่สภ.เมืองขอนแก่น
ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น อีกจำนวน 3 ครั้ง ตามบ้านเรือนและหอพักต่างๆ ทรัพย์สินที่ได้เป็นเงินสด และโทรศัพท์มือถือ โดยเงินสดที่ได้มานั้นนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาบ้าเสพ ส่วนโทรศัพท์มือถือยังไม่ได้นำไปขาย และเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ถูกตัดสินจำคุกมา 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก็มาก่อเหตุซ้ำ เพราะไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้จ่าย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
