ขอนแก่น จับมือ ททท. เปิดปฎิบัติการ "Love Local" ดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศ เที่ยวได้ทั้งปี (มีคลิป)
ขอนแก่น จับมือ ททท. เปิดปฎิบัติการ Love Local ดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศ เที่ยวได้ทั้งปี ด้วยกิจกรรมอันหลากหลาย ที่มาแล้วจะประทับใจไม่รู้ลืม "เข็มชาติ" ย้ำชัด ของเด่น ของดี มีเยอะมากในทุกชุมชน กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงสุดคุ้ม ที่ ชม ชิม ช๊อป แช๊ะ และแชร์ ได้ในทุกเวลา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ม.ค.2562 ที่โรงแรม ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์โฮเต็ล จ.ขอนแก่น นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ในปีที่ผ่านมา ภาพรวมด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้นสดใส เติบโตและคึกคักอย่างมาก โดยที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนั้นได้สรุปยอดจำนวนนักท่องเที่ยวทั่งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น ในปี 2561 อยู่ที่ 5,060,000 คน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่เราเอาวางเอาไว้คือปี 2561 จะต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ไม่น้อยกว่า 5,000,000 คน ขณะที่ในปี 2560 นั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อยู่ที่ 4,900,000 คน ดังนั้นจะเห็นว่าสัดส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวนั้นมีอัตราที่เติบโตขึ้นทุกปี ทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบและพลังของคนขอนแกน ที่ทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ทุกคนนั้นได้ร่วมมือกัน ร่วมกันคนละไม้คนละมือในการสนับสนุนและผลักดันให้ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางแห่งภูมิภาค เป็นจังหวัดที่เพียบพร้อมไปด้วยการบริการในรูปแบบต่างๆที่ครบถ้วน และที่สำคัญกับการที่จังหวัดได้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 5 เมืองหลักของไทยในการประชุมสัมมนาและการจัดนิทรรศการ ทั้งยังคงมีแรงสนับสนุจากการที่ขอนแก่นได้ถูกยกให้เป็นเมืองแห่งหัตถกรรมมัดหมี่โลก ทำให้ความเป็นขอนแก่น นั้นอยู่ในใจของคนทั่วโลกไปแล้ว
“ในปีนี้นี้ เราได้ประสานการทำงสานร่วมกันกับ ททท. และทุกภาคส่วนในการเปิดปฎิบัติการ "รักษ์ท้องถิ่น" หรือ "Khon Kaen Love local" ที่ถือเป็นนิยามและแผนการตลาดที่โดนใจคนขอนแก่นอย่างมากเพราะวันนี้เราต้องชูจุดเด่น จุดดี จุดขาย ที่ขอนแก่นมีอยู่ และที่สำคัญขอนแก่นมีทุกอย่าง มีทุกชุมชน ที่ทุกคนเมื่อมาเยือนบ้านของเราแล้วนั้นจะสามารถมาชม มาชิม มาแชร์ มาช๊อป และมาแช๊ะ ได้ตลอดทั้ง 24 ชัวโมง ประกอบกับรัฐบาลนั้นเน้นหนักในเรื่องของการสร้างชุมชนท่องเที่ยว โอทอป นวัตวิถี ที่มีหมู่บ้านต้นแบบการท่องเที่ยวแล้ว 114 หมู่บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของจังหวัดที่นักท่องเที่ยวนั้นสามารถที่จะมาสัมผัสความเป็นมนต์เสน่ห์ ความเป็นท้องถิ่น ความเป็นขอนแก่น ที่คนขอนแก่น พร้อมที่จะมอบใจ มอบความเป็นเสน่ห์ของเมืองที่ไม่ด้อยไปกว่าเมืองใดๆในโลกใบนี้”
นายเข็มชาติ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อของเด่น ของดี มีอยู่คู่ชุมชน วันนี้จังหวัดได้กำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงที่สามารถไปได้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเส้นทางไก่ย่างที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชมหมู่บ้านไก่ย่างที่ทำไก่ย่างตั้งแต่เลี้ยง การชำแหละ การหมักไก่ จนนำมาวางขาย ที่ อ.เขาสวนกวาง, หมู่บ้านกุนเชียง ที่ อ.บ้านไผ่, หมู่บ้านไดโนเสาร์ที่ อ.เวียงเก่า และ อ.ภูเวียง ,หมู่บ้านบ้านไหม ที่ อ.ชนบท, หมู่บ้านเต่า และ ผ้าฝ้ายครามที่ อ.มัญจาคีคีรี, หมู่บ้านงูจงอาง ชิมเมนูปลาจุ่ม ที่ อ.น้ำพอง, หมู่บ้านปลาส้ม ที่ อ.อุบลรัตน์ หรือแม้กระทั่งหมู่บ้านมะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งมีแล้วที่ อ.บ้านแฮด รวมไปถึงอำเภอต่างๆที่ไม่ได้กล่าวมา ที่มีของเด่น ของดี ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งหมด และทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมารวมกัน จนกลายเป็นจุดขาย ให้กับนักท่องเที่ยวนั้นได้มาสัมผัสถึงวิถี สัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี มาสัมผัสถึงความเป็นท้องถิ่นของเราที่มีให้บริการอย่างเพียบพร้อม มีที่พักแบบโฮมเสตย์ มีที่กินแบบบ้านๆ ที่ทุกคนนั้นสามารถที่จะลงมือทำร่วมกันกับชุมชนได้
อย่างไรก็ตาม จากภาพแห่งความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้การดำเนินงานในปีนี้นั้นจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผนวกกับงานประเพณีตลอดทั้ง 12 เดือนของจังหวัดที่กำหนดไว้ ทั้งหมดจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในภาพรวมกับทางจังหวัด สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในภาคการท่องเที่ยวได้ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเมื่อทุกคนนั้นได้มาเยือนขอนแก่นแล้วยังคงสามารถเชื่อมต่อเส้นทางการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมได้ทุกภูมิภาคของไทยและประเทศเพื่อนบ้านด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายอีกด้วย
