ครูขอนแก่นวอนอย่ายุบโรงเรียนเล็ก (มีคลิป)
ครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คัดค้านนโยบายยุบโรงเรียนขนาดเล็กจำนวน 15,000 แห่งทั่วประเทศ ระบุทำให้เด็กนักเรียนเดินทางลำบาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจนอยู่กับตายาย พร้อมระบายความในใจ “ผิดด้วยเหรอที่อยู่บ้านนอก ทำไมจ้องแต่จะยุบโรงเรียน แทนที่จะส่งครูมาช่วยกันพัฒนากระจายการศึกษาให้ทั่วถึง เด็กบ้านนอกไม่ใช่คนเหรอถึงได้เขี่ยเล่นตามใจชอบ”
ภายหลังจากทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีมติรวบรวมระเบียบและกฎหมายทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เนื่องจากมีโครงการเดินหน้ายุบ ควบรวม โรงเรียนขนาดเล็ก 15,000 แห่งทั่วประเทศไทย เนื่องจากบางโรงเรียนมีเด็กนักเรียนน้อย บางชั้นเรียนมีเพียง 2-4 คนเท่านั้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะพิจารณาว่าโรงเรียนใดควรยุบ โรงเรียนใดควรควบรวม โดยที่ประชุมจะนำระเบียบ กฎหมาย ที่ได้มาศึกษาให้ละเอียดและปรับแก้คราวเดียวกัน นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานยังได้หารือถึงปัญหาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่เปิดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนเดิม โดยขณะนี้มีโรงเรียนขนาดเล็ก 7,000-8,000 ที่เปิดสอนขยายโอกาสทางการศึกษา โดยจากตัวเลขที่บางโรงเรียนที่มีระดับชั้นมัธยมต้นเพียง 4 คน รวมไปถึงไม่มีเด็กนักเรียนชั้นมัธยม 2 และ 3 จึงทำให้ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเห็นว่า โรงเรียนใดที่มีจำนวนเด็กนักเรียนน้อย และการเปิดสอนระดับมัธยมศึกษาบริเวณใกล้เคียง และเด็กนักเรียนไม่มีปัญหาในการเดินทาง ให้หยุดรับเด็ก โดยประกาศล่วงหน้า 1 ปี ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีโอกาสศึกษาอย่างมีคุณภาพมากขึ้น เพราะถ้ามีนักเรียนน้อย เด็กนักเรียนจะไม่มีการทำกิจกรรมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ล่าสุดภายหลังจากมีมติดังกล่าวออกมา ได้มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “คณิตศาสตร์ By พี่ช่วย” โพสต์ภาพนิ่งครูผู้ชายคนหนึ่งเซลฟี่อยู่หน้าเด็กนักเรียนชายและหญิงที่กำลังยืนสงบนิ่งเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบภายในสนามหญ้าของโรงเรียน พร้อมข้อความระบุว่า “46 คนของผมคงต้องเดินทางไกลอีก 5 กม. แต่ละคนอยู่กับตายายแก่ ๆ ฐานะยากจนมาก ผิดด้วยเหรอที่อยู่บ้านนอก ทำไมจ้องแต่จะยุบ ร.ร.ฉัน แทนที่จะส่งครูมาช่วยกันพัฒนากระจายการศึกษาให้ทั่วถึง เด็กบ้านนอกไม่ใช่คนเหรอครับถึงได้เขี่ยเล่นตามใจชอบ นี่ก็สอนกันอยู่ 3 คน คนแรก=อนุบาล คนสอง=ป.1-2-3 คนสาม(ผมเอง) ป.4-5-6 เราก็อยู่ของเราได้ โอเน็ตก็สูงกว่าระดับประเทศอีก มันเปลืองงบอะไรนักหนา แต่ละปีไม่เห็นส่งงบอะไรมาให้พัฒนาถึงกับต้องเปลืองเลย คอมพิวเตอร์/สนามกีฬา/ป้าย/รั้ว/บ้านพักครู ฯลฯ ผ้าป่าชาวบ้านล้วน ๆ ร.ร.ที่ผมอยู่ อยู่ติดเขื่อนอุบลรัตน์ ชาวบ้านมีอาชีพหาปลา เด็กกำพร้าพ่อแม่(พ่อแม่อย่าร้างแยกทาง) อยู่กับตายาย 90% ห่างจากตำบล =12กม. ห่างจาก อ.ภูเวียง =24 กม. ห่างจาก สพป.ขก.เขต5 =82 กม. เศร้าแทนตายายแก่ ๆ กับโรงเรียนที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างมา และน้อยใจเหมือนเขามองเด็กเหล่านี้ไร้ค่ารวมถึงมองครูบ้านนอกอย่างพวกเราด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวทราบว่า ผู้โพสต์คือ นายบุญช่วย ฤทธิเทพ ครูโรงเรียนบ้านกุดแคนประชาสรรค์ ต.ทุ่งชมพู อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "คณิตศาสตร์ By พี่ช่วย" ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแชร์โพสต์ดังกล่าวจนเป็นประเด็นในสังคมขณะนี้ พร้อมทั้งเข้ามาให้กำลังใจให้ครูผู้ชายดังกล่าวทำหน้าที่เพื่อเด็กนักเรียน 46 คนต่อไป
นอกจากนี้ครูบุญช่วย ยังได้โพสต์ข้อความเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวอีกหลายข้อความ รวมทั้งโพสต์ที่เล่าเรื่องราวการเรียนการสอนภายในโรงเรียน ระบุข้อความว่า “แถวหน้า ป.5 มี 6 คน แถวกลาง ป.4 มี 4 คน แถวหลัง ป.6 มี 3 คน รวม 13 คน ฐานะยากจนมาก (ทุกคนเป็นกำพร้าพ่อแม่อยู่กับตายายแก่ ๆ) ครู 1 คน(ผมเอง) สอนทุกวิชา ผมเองก็พ่อแม่หย่าร้างและยากจนมาก ๆ เรียนจบจากศึกษาสงเคราะห์/ราชประชานุเคราะห์ พวกเราเข้าใจกันอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาก เช้าเรียนวิชาการ บ่ายเรียนดนตรีพื้นบ้านดีดพิณเป่าโหวด เย็นเล่นตะกร้อกับครู เด็กอ่านออกเขียนได้คิดเลขเป็นมีความขยันช่วยงานตายายและมีวินัย ที่สำคัญหาปลาหุงข้าวนึ่งข้าวซักผ้าล้างจานทำกับข้าวเป็นเอาตัวรอดได้ สังคมต้องการอะไรอีกในเด็กประถม ร.ร.ประจำหมู่บ้านเล็ก ๆ ครับ ความถนัดก็ไปต่อยอดเอาในมัธยมที่ครูครบชั้น ผมว่าโอเน็ตโอใจอย่าเอามาวัดเขาพวกนี้เลย แต่ทุกวันนี้วัดกันว่าโอเน็ตต่ำแทบไม่มีจุดยืนในสังคม เทงานเอกสารงานในระบบมาให้อีกนับไม่ถ้วน ทำให้ความสุขและเวลาของการสอนนั้นหายไป เท่านั้นยังไม่พอ เอะอะยุบ ตรงนี้บั่นทอนกำลังใจพวกเรามาก เราทำอะไรผิดเหรอครับ?”
และล่าสุดครูบุญช่วยได้โพสต์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกครั้งว่า “โรงเรียนยังไม่มีคำสั่งยุบมานะครับ(อีกไม่นานนี้ก็ไม่แน่) ผมเห็นข่าวจะยุบ ร.ร.ขนาดเล็ก15,000 กว่าโรงพร้อมบอกจะแก้กฎหมายที่ขัดขวางการยุบฯ เหมือนเขาจะยุบให้ได้ ถ้าจะยุบก็ควรลงพื้นที่ไปตรวจคุณภาพ/สอบความความพึงพอใจฯลฯก่อนว่าสมควรยุบไหม(บางที่น่ายุบจริง ๆ เรียนกับครูตู้นั่งเฝ้าทีวี2-3คนน่าสงสาร) แต่พวกเราอยู่กับเด็กทุกคนผลสัมฤทธิ์ก็ไม่น้อยไปกว่าเด็กในเมือง เอะอะยุบ แทนที่จะส่งครูไปช่วยกระจายการศึกษาให้ทั่วถึง ปู่ย่าตายาย ไทบ้านร่วมกันหาผ้าป่ามาสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ลูกหลานเขาได้อยู่ได้ใช้ในบ้านตัวเอง ต่ำว่า 50 ยุบ!! ภาพคุณตาคุณยายแก่ๆลอยมาในหัวผมเลย...เลยน้อยใจที่เขาไม่มองเห็น ไม่ให้ความสำคัญในจุด ๆ นี้ เลยสื่อออกไปให้เห็นภาพตามที่โพสต์ครับอย่างน้อยผมก็ได้แสดงจุดยืนของผม และสิ่งที่เป็นอยู่จริงอีกขั้วหนึ่งของการศึกษาไทยที่หลาย ๆ คนไม่เคยเข้าใจและไม่เคยรู้ว่ายังมีกลุ่มนี้ที่รอให้การศึกษามาถึงชมชุนเขาอยู่”
ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอพูดคุยกับครูบุญช่วยแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งล่าสุดครูบุญช่วยได้โพสต์เฟสบุ๊กอีกครั้งว่ามีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักติดต่อเข้ามาเพื่อขอสัมภาษณ์ทำข่าว แต่เจ้าตัวไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
