หอการค้าขอนแก่น แนะผู้ประกอบการปรับแผนการสู้โควิด หลังพบระบาดระลอก 4 ที่อาจจะส่งผลต่อเนื่อง (มีคลิป)

1

หอการค้าขอนแก่น แนะผู้ประกอบการปรับแผนการสู้โควิด หลังพบระบาดระลอก 4 ที่อาจจะส่งผลต่อเนื่อง เล็งกลุ่มตลาดมีกำลังซื้อ องค์กรขนาดใหญ่ ผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมเร่งผลักดันภาคการเกษตรเจาะตลาดอาหารจากขายเป็นกอง ปรับโฉมขายเป็นชิ้นส่งขายออนไลน์

        เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ค. 2564 ที่สำนักงานหอการค้า จ.ขอนแก่น นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ประชุมร่วม 8 องค์กรเศรษฐกิจหลัก ของ จ.ขอนแก่น เพื่อรับทราบถึงปัญหา ความต้องการ และการแก้ไขปัญหาผ่านระบบการประชุมแบบออนไลน์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยมีผู้นำภาคธุรกิจเอกชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์อย่างพร้อมเพรียง

        นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ภาครัฐไม่เคยเจอมาก่อน และเป็นสถานการณ์ที่ยืดเยื้อ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ระลอกที่ 4 ของการระบาด ซึ่งต้องยอมรับว่าภาคเอกชนโดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและงานบริการกระทบอย่างมาก การปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์และรับมือกับภาวะวิกฤติที่ยืดเยื้อเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องมาพูดคุยกันมาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งภาครัฐก็ได้กำหนดกรอบนโยบายการในการช่วยเหลือเยียวยามาทีละขั้น ทีละตอน จากงบประมาณที่มีอยู่ มาจนถึงการกู้เงินมาสู้วิกฤติ ที่ผ่านมายอมรับว่าธุรกิจภาคบริการของขอนแก่นพิ่งพาปัจจัยภายนอกด้วยเรื่องการเดินทาง การค้า การลงทุน และงบประมาณของภาครัฐเป็นหลักในการที่จะจัดงานต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชนที่ผลักดันและสนับสนุนงบ จากส่วนกลางกระจายลงมาสู่ระดับพื้นที่

        “ตอนนี้ทุกอย่างมันถูกควบคุมกดดันด้วยภาวะโรคระบาดและให้เกิดการทำธุรกิจสมัยใหม่ คือกลุ่มธุรกิจดิจิตอล ที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ดังนั้นภาคธุรกิจบริการจะต้องปรับตัว มาเน้นในเรื่องการประชุมแบบออนไลน์ การเจรจา การค้า การลงทุนแบบออนไลน์ แทนการพบปะแบบเดิม เนื่องจากภาวะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันสถานการณ์ที่ยืดเยื้อเป็นโจทย์ที่ยากอย่างมากของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะไม่สามารถที่จะพึ่งพากำลังซื้อจากภายนอกต่อไปได้ ดังนั้น การเจาะกลุ่มลูกค้า กลุ่มที่มีกำลังซื้อ และกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์มากนักในระดับพื้นที่ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าทางออกของขอนแก่น ทางออกของประเทศไทย เรามีอยู่เพราะด้วยความน่าอยู่ที่ดี ความเป็นวัฒนธรรมที่ดี อาหารอร่อย มีความความมั่นคงปลอดภัยจากโรค ปัญหาอาชญากรรมที่มีน้อยมากเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ หากขอนแก่นมีเป้าหมายชัดเจนของการใช้ชีวิตของสังคมสูงอายุ เมืองแห่งการบริการด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา เมืองแห่งเทคโนโลยี ที่มีการค้าขายเชื่อมโยงผ่านระบบ ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเชื่อมสู่ตลาดของไทยและตลาดโลกได้ข้อได้เปรียบตรงก็จะสามารถทำได้ ไม่ต้องมาทุบกระปุกสู้วิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นได้เช่นกัน”

        นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ยังคงมีกลุ่มที่เครียดจากภาวะเศรษฐกิจ และวิกฤติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และใช้การช็อปปิ้งบำบัด หรือการช็อปปิ้งเทลาปี้ มาใช้ในเวลาที่พากันไปช็อปปิ๊งแบบออนไลน์ ดังนั้นผู้ประกอบการก็ต้องเจาะกลุ่มดังกล่าวนี้จัดส่งพนักงานไปพบหรือเจาะฐานตลาดออนไลน์ ซึ่งเมื่อรู้ถึงความต้องการของตลาดผู้บริโภคแล้ว ก็จะทราบว่าต้องการอะไร อย่าไปผลิตส่งเดชเพราะผลิตไปแล้วไม่รู้ว่าจะไปขายให้ใครและก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเคยทำแบบนี้และก็ขายไม่ออก

        “อย่าไปทำในสิ่งที่ลำบากและไม่มีคนเอาเพราะว่ามันจะทำให้เราไปเดินชนกำแพงซึ่งจะเดินต่อไปก็เดินไปไม่ได้ก็ควรที่จะเลี้ยวหนี เช่นเดียวกันกับภาคการเกษตรซึ่งขณะยี้เข้าสู่หน้าฝน เข้าสู่ฤดูผลิต และบางผลผลิตยังคงเก็บเดี่ยวอยู่ดังนั้นการขายเป็นกองแบบเดิมควรที่จะหมดไป ควรขายเป็นชิ้น ควรขายแบบเพิ่มมูลค่า และต่อยอดสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ในจุดนี้ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการค้าขายได้ดี ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งวันนี้มีการพูดถึงเรื่องของกองทุนประกันสังคมแต่พอมาเจอภาวะวิกฤตแบบนี้ก็พบว่ากระทบกฎหมายเก่า ดังนั้นบางอย่างต้องคิดอย่างละเอียดและรอบคอบ รัดกุม เพื่อที่จะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน”

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง