ชาวขอนแก่น บุก สสจ. ถามมาตรการรับมือโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยรายวันแต่บริหารจัดการไม่เด็ดขาด ทั้งยังตั้ง โรงพยาบาลสนามนอกเมือง ขณะที่ สสจ.ระบุทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ทำงานทุกด้านอย่างรอบครอบ พร้อมเล็งตั้งโรงพยาบาลสนามและฮอสพิทอลเพิ่มเติมลงลึกในระดับท้องถิ่นคุมเข้มโดยสาธารณสุข คาดรับได้กว่า 1,000 เตียง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 เม.ย.2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีประชาชนชาวขอนแก่นเดินทางเข้าพบ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เพื่อสอบถามถึงมาตรการและแนวทางในการบริหารจัดการจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น หลังพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในเขตจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดทำโรงพยาบาลสนามที่ห่างจาก รพ.ขอนแก่น อย่างมาก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ สสจ.ขอนแก่น ก่อนที่จะเชิญทั้งหมดเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมพูดคุยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสุเนตร แก้วคำหาร แกนนำกลุ่มไทยภักดีขอนแก่น กล่าวว่า การมารวมตัวกัน ซึ่งวันนี้มาเฉพาะแกนนำในพื้นที่ เนื่องจากทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงลดการรวมตัวกันและเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อที่ทุกคนจะมาทวงถามและแถลงการณ์ถึงการดำเนินงานของฝ่ายสาธารณสุของจังหวัดที่ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ระบาดครอบคลุมอย่างมากและยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้ออย่างต่อเนื่องแบบรายวัน และที่สำคัญไม่มีการบริหารจัดการเหตุการณ์ หรือการจำกัดคนกลุ่มเสี่ยงให้อยู่ในการกำกับดูแลที่เข้มงวด เนื่องจากยังพบการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งของ ศบค.และคณะกรรมการควบคุมโคติดต่ออยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งยังคงมีการจัดตั้ง รพ.สนาม ที่ห่างจาก รพ.ขอนแก่น ในระยะทางที่ไกล ที่อาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือการบริหารจัดการที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ โดยในการเดินทางมาเข้าพบดังกล่าวเพื่อให้ชาวขอนแกนนั้นสบายใจและมั่นใจในการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ โดยไม่ถึงขั้นของการชุมนุมขับไล่คนทำงานออกจากพื้นที่เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แต่ก็มีในหลายประเด็นที่คนขอนแก่นสงสัยและต้องการความชัดเจนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หลายฝ่ายล้วนกังวลใจอย่างมาก

ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ภาพรวมทั้งจังหวัดมียอดผู้ป่วยสะสม 258 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายแล้ว 8 ราย ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทำให้มีจำนวนยอดผู้ป่วยที่ยังคงอยู่ในการดูแลของแพทย์ 250 ราย ขณะที่โรงพยาบาลสนาม ที่หอพักที่ 26 ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จัดทำไว้ 258 เตียงนั้นขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 46 ราย ทำให้การประเมินสถานการณ์และการรับมือในภาพรวมเพื่อกันไว้ดีกว่าขาด จึงได้เตรียมการในการจัดทำโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่อาคารอเนกประสงค์ภายในพุทธมณฑลอีสาน ที่สามารถรองรับได้อีก 250 เตียง ซึ่งการจัดทำโรงพยาบาลสนามที่ต้องอยู่ห่าจากชุมชนนั้นจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข ที่มีแนวทางการการดำเนินงานที่ถูกต้องและรัดกุมในทุกขั้นตอน

“ต้องขอขอบคุณภาคประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไวและออกมาทวงถามในสิ่งที่กังเกิดขึ้นเพื่อให้ได้ขยายต่อถึงสิ่งที่เรากำลังดำเนินการ ซึ่งวันนี้การประเมินสถานการณ์นั้นจะต้องทำกันแบบวันต่อวัน โดยในปลายเดือน เม.ย.นี้ก็จะทราบว่าสถานการณ์ในภาพรวมของจังหวัดเป็นอย่างไรและจะมีการประเมินอีกครั้งในช่วงกลางเดือน พ.ค. ดังนั้นแผนการต่อมาคือการจัดหา โรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีกรวมกว่า 500 เตียง โดยได้มีการหารือกันไว้ในหลายจุด รวมไปถึงการจัดทำฮอสพิทอล หรือสถานที่รักษาที่ใช้โรงแรมมาเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งผู้ป่วยที่สามารถเข้าพักที่ฮอสพิทอลได้นั้นต้องผ่านการดูแลจากโรงพยาบาลหลักแล้วครบ 7 วัน จึงจะสามารถเข้ารับการรักษาและพักตัวที่ฮอสพิทอลได้ ขณะเดียวกันยังคงมีการหารือในเรื่องของโรงพยาบาลสนามในระดับตำบล ซึ่งเป็นขั้นตอนของการทำงานเชิงรุกที่คณะทำงานของขอนแก่นได้ทำทุกด้าน ตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับอย่างเข้มงวด”

นพ.สมชายโชติ กล่าวต่ออีกว่า จะเห็นได้ว่าวงรอบของการระบาดระลอกใหม่รอบนี้วงรอบแรกเกิดจากสถานบันเทิง มาสู่วงที่ 2 ที่เป็นผู้ที่ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับวงรอบที่ 1 ขณะที่วงรอบที่ 3 คือกลุ่มของผู้ที่ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ที่อยู่ในวงรอบที่ 2 ดังนั้นมาตรการป้องกันและควบคุมทุกฝ่ายทำเต็มที่แต่สิ่งที่พบคือกลุ่มเสี่ยงไม่แสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมและการ์ดตก จนกระทั่งมาตรวจพบว่าติดเชื้อจึงจะสามารถที่จะสอบสวนโรคเชิงลึกและเข้าสู่กระบวนการการรักษาได้ อย่างไรก็ตามยังคงยืนยันในการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณในการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ในการดำเนินงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐในขั้นตอนต่างๆอย่างเข้มงวดตลอดทั้ง 24 ชม.