ผู้บริหารและอาสากู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพองตัดพ้อ หลังบุคลากรแพทย์ด่านหน้าเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์บูทเข็ม 3 แต่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ไม่ได้ทำหน้าที่ด่านหน้าอย่างแท้จริงโพสต์เฟซบุ๊กหลังฉีดจนเกิดกระแสดราม่า ทั้งฝ่ายธุรการ-ฝ่ายไอที-คนขับรถรพ.สต. ขณะที่กู้ชีพกู้ภัยหลังรับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มาให้ความสนใจ ทั้งที่สิ่งที่ทำเสี่ยงติดเชื้อมากกว่า วอนให้ความสำคัญบูทเข็ม3และไม่จำเป็นว่าต้องเป็นไฟเซอร์เท่านั้น

        เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ส.ค.2564 ที่มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง ตั้งอยู่เลขที่ 338 ม.2 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายคัคเนศ คงเจริญสุข เลขาธิการ มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง พร้อมด้วยอาสากู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง นำภาพจากในเฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน้ำพอง จ.ขอนแก่น ที่โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อบูทเข็ม 3 เมื่อวานที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โดยเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายไอทีของโรงพยาบาล ทำให้เกิดเป็นกระแสขึ้นมาเมื่อทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพซึ่งทำงานด่านหน้ารับส่งผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พบเห็นและรู้ว่าไม่ใช้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ทำหน้าที่เสี่ยงจริงๆ เหมือนกับอาสากู้ชีพกู้ภัย แต่กลับได้รับการบูทวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจนล่าสุดมีการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว

        นายคัคเนศ คงเจริญสุข เลขาธิการมูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพอง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและน้องๆอาสากู้ชีพกู้ภัยทั้ง 20 คน ต่างคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากมีกรณีเฟซบุ๊กของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน้ำพองฝ่ายธุรการและฝ่ายไอทีโพสต์เฟซบุ๊กว่าได้รับวัคซีนไฟเซอร์บูทเป็นเข็มที่ 3 โดยอาสาของมูลนิธิทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้วทั้ง 2 เข็ม ครบทุกคน และรอบูทเข็ม 3 แต่ด้วยความที่เราไม่ได้เขียนคำร้องไปขอฉีดเนื่องจากทราบว่า ต้องให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฉีดก่อน เราจึงไม่ติดใจและรอให้การฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของโรงพยาบาลหมดก่อน ซึ่งหวังว่าจะได้รับหลังจากนี้ แต่เมื่อวานที่ผ่านมา พบว่ามีบุคลากรของโรงพยาบาลน้ำพองเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นฝ่ายธุรการ ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลจริง แต่ไม่ได้มาคลุกคลีกับผู้ป่วย นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีของโรงพยาบาลน้ำพองเข้ารับการบูทวัคซีนเข็ม 3 ด้วย และยังมีคนขับรถของ รพ.สต.ในอำเภอน้ำพอง แต่ไม่ได้รับเคสโควิด-19 ก็ยังได้รับบูทวัคซีน ทำให้เกิดความคาแคลงใจ ทั้งที่มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพองได้รับการประสานจากทางโรงพยาบาลน้ำพองให้เป็นจุดเดียวที่ทำหน้าที่รับส่งผู้ป่วยโควิด-19ทั้งอำเภอน้ำพอง ทั้งรับมาโรงพยาบาลทั้งรับกลับบ้านทั้งรับไปฌาปนกิจ ซึ่งทำงานด่านหน้าและเสี่ยงจริงๆแต่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จึงอยากจะขอความเป็นธรรมไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ให้มีการตรวจสอบและชี้แจงการจัดสรรวัคซีนเข็ม 3 ให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้า และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่อาสาทุกคนที่มีความเสี่ยงและใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19โดยตรง

        นายคัคเคสกล่าวอีกว่า ในส่วนการบูสวัคซีนเข็ม 3 ของเจ้าหน้าที่อาสานั้น ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นวัคซีนอะไร แต่ขอให้ได้ฉีดเพื่อสร้างภูมิในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสนับสนุนเคสผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาสอบถามเราว่าต้องการบูทวัคซีนเข็ม 3 หรือไม่ หรืออยากได้เป็นวัคซีนชนิดไหน เราจึงไม่รู้ว่าต้องแจ้งความประสงค์ช่องทางไหน และทางโรงพยาบาลที่ได้ฉีดไปแจ้งความประสงค์ช่องทางไหน จากการสอบถามไปยัง ผอ.รพ.น้ำพอง ให้คำตอบกลับมาว่า ฉีดให้เฉพาะคนในโรงพยาบาล ตนเองอยากถามย้อนไปว่า อาสามูลนิธิฯทำงานภายใต้โรงพยาบาลน้ำพอง เป็นระบบ EMS ของกระทรวงสาธารณสุขเช่นกัน ทำไมจึงไม่มีใครเหลียวแล ทำไมไม่มีการลงมาสอบถามว่ามีใครอยากบูทเข็ม 3 หรือไม่ ถ้าเราบอกว่าไม่ฉีดก็จบ แต่เราต้องการฉีดเข็ม 3 อยู่แล้วเพราะรู้ว่าซิโนแวค 2 เข็มไม่ได้มีประโยชน์อะไร และการฉีดบูทเข็ม 3 ของโรงพยาบาลน้ำพองนั้นเป็นโรงพยาบาลจัดสรรเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีประเด็นเรื่องการจัดสรรวัคซีนในโรงพยาบาลน้ำพองที่ไม่เป็นธรรม โดยเรื่องนี้ตนเองได้มีการร้องเรียนไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาแล้วแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบและไม่มีความคืบหน้าใดๆเกิดขึ้น อยากฝากทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแกนและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นให้ช่วยติดตามความคืบหน้าการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน และหลังจากนี้หากไม่มีความคืบหน้าหรือความชัดเจนในเรื่องการฉีดวัคซีนบูทเข็ม 3 ก็จะเดินหน้าต่อไปพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอนแก่น คืบหน้าดราม่าอาสาตัดพ้อฉีดไฟเซอร์ให้คนที่ไม่ใช่ด่านหน้าตัวจริง (มีคลิป)