ชาวบ้านโนนทอง ในอำเภอบ้านไผ่ ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านให้เหลือทางเดียว งดรับบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนแพร่กระจายในหมู่บ้านรวม 13 คน แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงชาวบ้าน 50 คน ขณะที่ชาวบ้านเดือดร้อนหนักถูกลูกค้าปฏิเสธงดรับสินค้าของคนในหมู่บ้าน 14 วัน เพราะกลัวติดโควิด19
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณทางเข้าบ้านโนนทอง ม.6 ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายจิณณวัตร สมอออน กำนันตำบลหินตั้ง พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นำยางรถยนต์ มาปิดกั้นทางเข้าออกหมู่บ้านทั้งสองเส้นทาง เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในหมู่บ้าน ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกันที่ศาลาประชาคมของหมู่บ้าน ก็มีแพทย์จากรพ.บเนไผ่ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ้านไผ่ เข้ามาทำการตรวจคัดกรองให้กับชาวบ้านจำนวน 50 ราย
นายจิณณวัตร สมอออน กำนันตำบลหินตั้ง กล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านโนนทองมีคนติดโควิด-19 จำนวน 13 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กนักเรียน โดยคนป่วยคนแรกเป็นผู้สูงอายุ ที่มีลูกหลานขับรถบรรทุกรับจ้าง และไปมาหาสู่กับครอบครัว เมื่อผู้สูงอายุรายดังกล่าวป่วยก็มีการแพร่เชื้อติดต่อกันมารวม 13 คน ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านจึงมีมติเห็นชอบร่วมกันว่า ควรปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยให้คนในหมู่บ้านออกไปทำงาน ทำมาหากินได้ตามปกติ แต่เมื่อกลับเข้าบ้าน จะต้องเข้ามาที่ถนนสายกลางเพียงสายเดียว เพื่อผ่านการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิในร่างกาย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอร์เพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนจะเข้าในหมู่บ้าน ส่วนบุคคลภายนอกที่จะเดอนทางมาทำธุระในหมู่บ้านนั้นห้ามเด็ดขาด การส่งของหรือขนส่งไปรษณีย์ก็ห้ามเข้าในหมู่บ้านเด็ดขาด
กำนัน กล่าวอีกว่า บ้านโนนทองเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดถนนสายบ้านไผ่ บรบือ มีทางเข้าออกหมู่บ้านทั้งหมด 3 เส้นทาง จึงทำการปิด2 เส้นทาง เปิดให้เข้าออกเพียงเส้นทางสายกลางหมู่บ้านเพียงทางเดียว โดยจะมี อสม.และผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเข้าเวรยามในการตรวจคัดกรองประชาชนที่จุดตรวจทางเข้าหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอาหาร น้ำดื่มนั้น ชาวบ้านก็ช่วยเหลือกันเอง ในบางครั้งก็มีประชาชนนำน้ำดื่มและอาหารมารบริจาคให้ จึงขอความร่วมมือกับชาวบ้านโนนทองและญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ช่วยกันดูแลรักษาตัวเองอย่าให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19เข้ามาในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด ส่วนคนที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงหรือจังหวัดที่มีกลุ่มเสี่ยงมากๆนั้น ให้เข้าสู่กระบวนการ การกักตัว ที่จุดพักคอย จึงขอย้ำว่า ให้ปฏิบัติตามกฎทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ให้เห็นแก่สังคมส่วนรวม อย่าเห็นแก่ตัว เพราะการระวังรักษาโรคโควิดไม่ให้นะบาดนั้น ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง
ด้าน นางสาวทิพย์สุดา ซื่อตรง อายุ 28 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพทำแคบหมูขายปลีกและส่ง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้การใช้ชีวิต การทำมาหากินแย่ลงหนักกว่าเดิม ตอนนี้เกิดผลกระทบขึ้นกับทุกคนในหมู่บ้านทุกอาชีพ อย่างตนเองทำแคบหมูขายก็โดนลูกค้าปฏิเสธ ไม่ขอรับแคบหมูจากตัวเองอีกเพราะกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากปกติลูกค้าเคยสั่งก็ยกเลิกทันที เพราะมีข่าวออกไปว่าบ้านโนนทองมีคนติดเชื้อเยอะ งดชั่วคราว 14 วัน ตอนนี้อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ เพราะทุกคนต้องทำมาหากิน คนงานที่ร้านก็เข้ามาไม่ได้ ทำให้ตอนนี้กระทบทุกหลังคาเรือน
Leave a Response