อสม. ที่ตำบลบ้านหว้า จังหวัดขอนแก่น เร่งสำรวจผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค เพื่อรวบรวมรายชื่อ ก่อนคัดกรองผู้ที่พร้อมลงชื่อรับวัคซีนป้องกันโควิด-19
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ค. 64 อสม.ตำบลบ้านหว้า พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เดินเคาะประตูบ้าน เพื่อสำรวจผู้สูงอายุเกิน 60 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค คือโรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลออดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็วทุกชนิด และโรคเบาหวาน เพื่อรวบรวมรายชื่อให้ครบทั้งหมด ก่อนจะได้นำรายชื่อเข้าสู่ระบบหมอพร้อม เพื่อที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน
นายสุพล เซี่ยงใช่ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ รพ.สต.บ้านหว้า กล่าวว่า ขณะนี้ทาง รพ.สต.บ้านหว้า ได้ร่วมกับ อสม. ของแต่ะหมู่บ้านได้ออกสำรวจผู้ที่เข้าเกณฑ์สามารถรับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จนทำให้ขณะได้มีข้อมูลผู้ที่เข้าเกณฑ์โดยผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีประมาณ 1,500 คน และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ประมาณ 600 คน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านหว้า ได้มาลงทะเบียนว่า มีผู้ใดที่ต้องการที่จะรับการฉีดวัคซีน ในส่วนผู้ที่ต้องการจะฉีดวัคซีนที่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์หมอพร้อม เพื่อที่จะนัดวันฉีดวัคซีน และผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน อสม. ได้มาลงทะเบียนรายชื่อไว้แล้ว จากนั้นจะมีการลงทะเบียนให้ เมื่อรวบรวมได้ครบทั้งตำบลแล้ว จะให้ อสม. แต่ละหมู่บ้านมีการประกาศรายชื่อ ผ่านหอกระจายข่าวหมู่บ้านเพื่อแจ้งวันและสถานที่ในกรฉีดวัคซีนต่อไป โดยทาง รพ.สต. จะได้นัดหมาย เพื่อรวมกันไปฉีดวัคซีน
ด้าน นางเกียงคำ โสทอง อายุ 76 ปี ชาวบ้านหว้า บอกว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่จะได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากที่รัฐบาลได้ซื้อวัคซีนเข้ามาฉีดให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะเนื่องจากตนเองกลัวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวนมาก ซึ่งตนเองไม่กลัวที่จะต้องฉีดวัคซีนที่น่ากลัวที่สุดก็คือเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากตนเองอายุมาก หากติดเชื้อมาจะทำให้รักษาหายช้า
ด้านนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การรับวัคซีนของประชาชน กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ ผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค สำหรับระยะแรกนั้น ได้ฉีดให้กลุ่มที่ 1 และ 2 ไปแล้ว ขณะนี้เป็นระยะที่ 2 จะฉีดให้กลุ่มที่ 3 และ 4 คือ กลุ่มคนมีป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรือรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ขึ้นไป จำนวนประมาณ 350,000 คน
ในส่วนของฐานข้อมูลผู้สูงอายุ60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค 2 กลุ่มนี้ที่จะได้ฉีดก่อน เพราะดูข้อมูลการเสียชีวิต พบผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือเป็นผู้สูงอายุ และผลการศึกษาพบว่าวัคซีนช่วยลดการตายและนอนโรงพยาบาล ดังนั้น 2 กลุ่มนี้ จึงเป็นกลุ่มที่ต้องปกป้องก่อน ซึ่งมีข้อมูลในฐานข้อมูลอยู่แล้ว ทุกคนได้สิทธิ์จองอัตโนมัติ แต่จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ติดตามว่า บุคคลดังกล่าวยังมีตัวตน และยืนยันสิทธิ์ที่จะรับวัคซีน ก็จะนำไปสู่การรับวัคซีนในเดือนมิถุนายนต่อไป
Leave a Response