ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จับกุม “เหน่ง” ชายแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรเงินชาวบ้านซื้อยาบ้ามาเสพ หลังก่อนหน้านี้ถูกจับแล้วแต่ไม่เข็ดหลาบ ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม นักข่าวซุ่มดูพฤติกรรมร่วม 3 ชั่วโมง ก่อนเจ้าตัวจะแปลงร่างห่มเหลืองออกเดินขอเงินชาวบ้าน ก่อนประสานตำรวจรวบทันควัน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เข้าควบคุมตัวนายพัฒนชัย สัพโส หรือ “นายเหน่ง” อายุ 40 ปี ที่อยู่ 51 ม.10 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ขณะกำลังเดินดื่มเหล้าขาวที่อยู่ในขวดเครื่องดื่มชูกำลัง บริเวณหน้าร้านทองแห่งหนึ่ง ใกล้กับสถานีรถไฟในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ โดยในตัวมีกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีผ้าจีวรและย่ามพระ หลังจากที่นายเหน่ง ได้กลับมาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์หลอกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านไปซื้อยาบ้ามาเสพและซื้อสุรามาดื่ม ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ทิดเหน่ง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ในข้อหาเสพยาเสพติด โดยพนักงานสอบสวนฯได้นำตัวไปดำเนินคดีมาแล้ว แต่ผ่านมาเพียง 2 วัน กลับมีชาวบ้าน พบเห็น นายเหน่ง แต่งตัวเป็นพระสงฆ์ ออกมาเดินเรี่ยไรเงินในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ เช่นเดิม ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความสงสัยว่า เหตุใดนายเหน่ง จึงกลับมาทำแบบนี้ได้อีก ทั้งที่ถูกจับไปแล้ว
โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุม ทีมข่าวได้ติดตามดูพฤติกรรมของนายเหน่ง โดยมีชาวบ้านให้เบาะแสว่า เขาจะอาศัยอยู่ภายในสถานีรถไฟและจะออกมาห่มผ้าเหลืองเดินเรี่ยไรเงินชาวบ้านในช่วงเช้า เที่ยงและเย็น ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปเฝ้าดู โดยพบว่า นายเหน่ง ซึ่งอยู่ในชุดลำลอง สวมกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนและเสื้อกล้าม ได้ผูกเปลนอนอยู่ใต้บันไดทางขึ้นของสถานีรถไฟ กระทั้งเวลาผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง นายเหน่งก็เริ่มเก็บเปลนอน ก่อนจะเดินออกไปทางด้านหน้าสถานีรถไฟ ทีมข่าวจึงตามไปดูก็พบว่า นายเหน่งได้นำผ้าจีวรออกมาจากสะพายย่ามแล้วห่มทับชุดลำลองปลอมตัวเป็นพระ ก่อนจะออกเดินขอเงินจากชาวบ้าน โดยในระหว่างที่ทีมข่าวติดตามดูพฤติกรรม ก็มีชาวบ้านยื่นเงินให้ แต่ทันทีที่นายเหน่งได้เงิน เขาได้เดินเข้าไปในซอย แล้วถอดผ้าจีวรออก เหลือเพียงชุดลำลองที่ใส่ไว้ด้านใน จากนั้นก็เดินไปขอซื้อเหล้าขาวจากร้านค้าริมทาง ทีมข่าวจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ เข้าจับกุมตัว โดยในระหว่างเข้าจับกุม เขายังอ้างว่า มาหาซื้อของเพื่อเดินทางไป จ.นครราชสีมา ตำรวจชุดสืบสวนจึงแกล้งถามว่า มีเงินไหมจะเอาให้ นายเหน่ง จึงหลุดปากออกมาว่า “แล้วแต่โยมจะให้อาตมา” ตำรวจจึงได้แสดงตัว ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านไผ่
จากการสอบสวน นายพัฒนชัยฯ หรือ นายเหน่ง ให้การว่า ที่ต้องกลับมาปลอมตัวเป็นพระเดินขอเงินชาวบ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร และตนเองก็ไม่อยากทำงาน เห็นว่า ห่มผ้าเหลืองแล้วเดินขอเงินแบบนี้ ได้เงินง่ายกว่า และหากกลับออกมาอีกก็จะกลับมาทำเหมือนเดิม
ด้าน พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า การจับกุมตัวนายพัฒนชัยฯ หรือ นายเหน่ง ในครั้งที่ 2 นี้ สืบเนื่องมาจากได้มีชาวบ้าน พบเห็นว่า นายเหน่ง ได้กลับมาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมตัวดำเนินคดีไปแล้ว ในข้อหาเสพยาเสพติด โดยครั้งนั้น พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น แล้ว โดยศาลมีคำสั่งคุมประพฤติและให้ไปรายงานตัวตามนัด แต่ทิดกลับมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก ซึ่งทาง สภ.บ้านไผ่ ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยตัวนายเหน่งไปในชั้นสอบสวนแต่อย่างใด แต่เมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนรำคาญและนายเหน่ง ยังมีพฤติกรรมแต่งกายเป็นพระสงฆ์หลอกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยครั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม หากนายเหน่งกลับออกมาทำพฤติกรรมแบบเดิม เจ้าหน้าที่ก็จะจับกุมอีก โดยย้ำว่า ทำอีกก็จับอีก
สำหรับนายพัฒนชัย สัพโส หรือ “นายเหน่ง” อายุ 40 ปี เป็นชาว ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกจับกุมและรับสารภาพว่า เคยบวชเป็นพระที่ จ.อุบลราชธานี มากว่า 10 ปี แต่ได้ถูกจับสึกเพราะเมาสุรา หลังถูกจับสึกโดยที่เขาไม่เต็มใจ จึงได้เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น โดยยังคงห่มผ้าเหลืองเลียนแบบพระเช่นเดิม ซึ่งในแต่ละวันจะออกเดินเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านที่ซื้อของภายในตลาดเทศบาลเมืองบ้านไผ่ โดยอ้างว่า จะเดินทางไปที่ จ.นครราชสีมา แต่ค่ารถไม่พอ เมื่อมีคนหลงชื่อเอาเงินให้ เขากลับนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ และจะใช้พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟเป็นที่หลับนอน
Leave a Response