ความคืบหน้ากระบะมาด้วยความเร็วพุ่งชนพนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนมะลิวรรณจนกระเด็นได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองกระทบกระเทือน ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นสั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบให้การช่วยเหลือเยียวยา ขณะที่น้องเอิญและครอบครัวสบายใจขึ้นหลังได้พูดคุยกับทุกหน่วยงาน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นายธีระศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านฝาง จ.ขอนแก่น และนายณัฐพล พลีศักดิ์ นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.) พนักงานสอบสวนสภ.บ้านเป็ด และผู้นำชุมชน อสม. ร่วมกันลงพื้นที่ไปพบกับ น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ อายุ 19 ปี พนักงานหน้าลาน สถานีบริการน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 41 ม.6 บ.โนนสะอาด ต.ป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลังจากที่น้องเอิญประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะพุ่งชนที่หน้าปั๊ม ปตท.ริมถนนมะลิวัลย์ พื้นที่บ้านหนองหลุบ เมื่อคืนวันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา จนกระเด็นได้บาดเจ็บสาหัส สมองกระทบกระเทือน จนความจำไม่เหมือนเดิม รักษาตัวอยู่ในรพ.ศูนย์ขอนแก่นหลายวัน ส่วนรถกระบะ หลัวงเกิดเหตุได้หลบหนีไป แต่กล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมัน บันทึกภาพวันเกิดเหตุไว้ได้ พ่อแม่ จึงนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเป็ด เพื่อสืบสวนหารถคันที่ชน รวมทั้งเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น แต่ไม่ได้รับการใส่ใจจากเจ้าหน้าที่ บอกเพียงว่า เจ้าหน้าที่ทำงานทุกคน อีก 4 เดือนค่อยมาตามเรื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายธีระศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านฝาง และนายณัฐพล พลีศักดิ์ นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.) พนักงานสอบสวนสภ.บ้านเป็ด และผู้นำชุมชน อสม. ร่วมกันลงพื้นที่พบกับน.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ อายุ 19 ปี และพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่บ้านหลังดังกล่าว
โดยทางเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้ทำการแจ้งสิทธิ์ของผู้เสียหายหรือผู้บาดเจ็บ ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ให้กับ น.ส.เอิญกนก และพ่อแม่ได้ทราบ รวมทั้งแนะนำให้มีการจัดเตรียมเอกสารต่างทั้งใบรับรองแพทย์ รายละเอียดการรักษาพยาบาลของรพ. เพื่อนำไว้เป็นหลักฐานในการที่จะยื่นขอใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ที่เกิดความเสียหาย เกิดขึ้นจากหรือเนื่องจากมีการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น
นายณัฐพล พลีศักดิ์ นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นนั้น ไม่มีการปฏิเสธ การรับเรื่องจากประชาชน แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เนื่องจากฝ่ายพ่อแม่คนเจ็บ แจ้งว่าได้มีการแจ้งความกับตำรวจสภซบ้านเป็ดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงอธิบายว่า เมื่อแจ้งความแล้ว ก็ควรจะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามหน้าที่ไปก่อน ส่วนความคืบหน้าของการทำงานในคดีต่างๆนั้น อาจจะใช้เวลามากน้อยไม่เท่ากัน บางคดีอาจจะ 3-4 เดือน หากไม่มีอะไรคืบหน้าให้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งในจุดนี้อาจจะไม่มีความเข้าใจกัน
ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น(พมจ.) นั้นได้เข้ามาดูแลในเรื่องสิทธิต่างๆของคนเจ็บซึ่งเป็นพนักงานหน้าลานภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าวว่าได้รับเงินเดือนครบหรือไม่ หากไม่ครบก็จะประสานให้ทางบริษัท มีการจ่ายให้ครบ และชดเชยให้คนเจ็บตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานด้วย รวมถึงหากจับกุมรถและคนขับรถคันที่ชนน้องเอิญได้ ก็จะตรวจสอบ พรบ.รถยนต์ เพื่อให้น้องเอิญได้รับการคุ้มครองดูแลจาก พรบ.ดังกล่าวด้วย และให้พ่อแม่ เดินทางเข้าประสานงานกับ รพ.ขอนแก่น เพื่อขอใบรับรองแพทย์กรณีที่น้องเอิญบาดเจ็บยังไม่สามารถกลับเข้าทำงานได้
นายธีระศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านฝาง กล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังนำคณะเข้าพบปะพูดคุยกับคนเจ็บและครอบครัวกว่า 1 ชั่วโมงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เพิ่งเป็นข่าว ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนั้น นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้อำเภอบ้านฝาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาพบกับคนเจ็บและครอบครัว เพื่อพูดคุยในด้านต่างๆ ว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดขัดหรือบกพร่องในจุดใด ซึ่งทุกหน่วยงานได้ทำความเข้าใจกับทางคนเจ็บและครอบครัวจนเป็นที่เข้าใจแล้ว ในส่วนทางคดี ตำรวจสภ.บ้านเป็ดก็ดูแลเรื่องคดีและสืบสวนหารถกระบะคันดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รายละเอียด เนื่องจากเห็นเฉพาะด้านข้างของรถไม่เห็นทะเบียน ซึ่งต้องมีการสืบสวนกันต่อไป และขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย หน่วยงานที่เกี่ยวทุกส่วนไม่ได้ทอดทิ้ง เมื่อทราบเรื่องก็รีบมาให้การช่วยเหลือทันที
ทางด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังกหสัดขอนแก่น กล่าวถึงกรณี น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ อายุ 19 ปี พนักงานหน้าลาน สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งถูกกระบะชนแล้วหนีอาการสาหัส คดีไม่คืบ ศูนย์ดำรงธรรมไม่รับเรื่องนั้น ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว โดยทราบว่าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ประสานไปยัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านโนนสะอาด ตำบลป่าหวายนั่ง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการแจ้งสิทธิค่าตอบแทนผู้เสียหายใน คดีอาญา ตาม พ.ร.บ ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ซึ่งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้มอบเอกสารในการยื่นคำขอฯ สำนักงานฯ ให้ผู้เสียหายกรอกคำขอฯ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ และจะนำมายื่น ณ สำนักงานฯ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เกิดเหตุ
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์เบื้องต้น คดีนี้ผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณี ความผิดต่อร่างกายจราจาร คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัด ไม่เกิน 365 วัน จ่ายตามจริง ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท รวมเป็นเงินประทมาณ 208,625บาท ในส่วนของคดีและการติดตามรถคันที่ชน น้องเอิญคนเจ็บนั้น ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเป็ด ได้ลงพื้นที่ ตรวจที่เกิดเหตุ และสอบสวนชาวบ้านและพนักงานปั๊มน้ำมัน แต่ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ จึงได้ไล่ตรวจกล้อวงวงจรปิด ตามร้านค้าที่อยู่ริอมถนนเพื่อหาเบาะแสรายละเอียดของรถคันดังกล่าว
ทางด้าน นายบุญช่วย ดวงทองทิพย์ และนางเพ็ญนภา ดวงทองทิพย์ บิดา มารดาของ น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ ต่างพากันยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ลงพื้นที่มาในครั้งนี้ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกพอใจและหายวิตกกังวลใจบ้างแล้ว หลังจากที่ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งให้หน่วยงานต่างๆมาช่วยเหลือดูแล ขณะนี้ไม่ติดใจกับคำพูดของเจ้าหน้าที่แล้วส่วนทางคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนหารถคันดังกล่าวต่อไป
น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ กล่าวว่า พอใจกับการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ยังวิตกกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะเชื่อว่าตัวเองต้องถูกให้ออกจากงาน เพราะขาดงานมานานแล้ว จึงห่วงในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่น้อง 2 คนกำลังจะเปิดเทอม พ่อแม่ ไม่มีเงินให้น้องไปเรียนหนังสือ จึงวิตกเป็นอย่างมาก
ขณะที่ นางสาว ภัทรพร ดวงทองทิพย์ อายุ 16 ปี น้องสาวของน้องเอิญ ที่เฝ้าดูแลพี่สาวอยู่ไม่ห่าง กล่าวทั้งน้ำตาว่า สงสารพี่สาวมาก อยากให้ฝ่ายรถยนต์มารับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพราะพี่สาวบาดเจ็บสาหัส สมองกระทบกระเทือน อาจจะทำงานไม่ได้เหมือน สิ่งที่น้องสองคนจะทำเพื่อตอบแทนพี่เอิญคือ ตั้งใจเรียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พนักงานปั๊มน้ำมันถูกกระบะชนแล้วหนีอาการสาหัส คดีไม่คืบ-ศูนย์ดำรงธรรมไม่รับเรื่อง (มีคลิป)
Leave a Response