หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยานได้ละขันธ์แล้ว

184172970_4250282658324175_5649043956431251086_n

แจ้งข่าว พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย) วัดป่าธรรมอุทยานได้ละขันธ์แล้ว ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 16.00 น. สิริอายุ 61 ปี 39 พรรษา

กำหนดการงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารถวายพระอาจารย์สำราญ ธัมมธุโร
งานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย) มีกำหนด 100 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 นี้เป็นต้นไป

วันที่ 10 พฤษภาคม 2564
12.00 น.- 15.00 น.
รดน้ำถวายสรีระสังขารพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
15.00 น. – 16.00 น.
ทำการอัญเชิญสรีระสังขารบรรจุในโลง
20.00 น.
สวดบำเพ็ญกุศล

วันอื่นๆ ก่อนถึงวันพระราชทานเพลิงศพ
เปิดให้เข้ากราบสักการะสรีระสังขารตั้งแต่ 8.30 น. ของทุกวัน
และ 20.00 น. ของทุกวันทำการสวดบำเพ็ญกุศล
ขอความร่วมมือทุกๆ ท่านให้ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะกักตัว14วัน หากมาจากจังหวัดที่เสี่ยงและเมื่อพร้อมเข้าร่วมงานได้ให้ลงทะเบียน-สวมหน้ากาก-เว้นระยะห่าง-ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในงานอย่างเคร่งครัด

เพื่อให้การดำเนินการถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์สำเร็จลุล่วงด้วยดีด้วยความเรียบร้อยไม่ติดขัด
สำหรับท่านที่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพสวดบำเพ็ญกุศลให้ติดต่อพระอาจารย์เหมียว (0955249095) หรือพระอาจารย์นีโน่ (0952597824)
ท่านที่ประสงค์จะทำโรงทานในงานติดต่อคุณแม่ชีใหม่ (0909549942)

สำหรับบัญชีที่ใช้สำหรับงานบำเพ็ญกุศลนี้จะประกาศให้ทราบต่อไป
ทางวัดป่าธรรมอุทยานขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยความสงบเรียบร้อย
ขอให้ท่านทั้งหลายได้น้อมนำคำสอนจากพระพุทธองค์และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไปปรับใช้ให้ได้เป็นปฏิบัติบูชานำพาให้พบชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์สืบต่อไป…

 

ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อสำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย)
วัดป่าธรรมอุทยาน บ้านสำราญ ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

ภูมิหลัง
นามเดิม สำราญ นามพรมมา
เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๒
เป็นบุตรคนที่๒ ของนายม่วง กับนางเกษา นามพรมมา มีพี่น้อง๕คน
ภูมิลำเนาเดิม บ้านทองหลาง หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

การศึกษา
หลวงพ่อเรียนจบชั้นประถม ๖ ที่หมู่บ้านโรงเรียนทองหลา แล้วมาสอบเข้า ม.ศ. ๑ ที่โรงเรียนแก่นนคร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมากับเพื่อนๆ ทั้งหมู่บ้าน ๒o คน มีหลวงพ่อสอบติดคนเดียว

การทำงาน
เมื่อจบการศึกษาแล้ว หลวงพ่อได้ทำงานกับเพื่อนๆ ได้ทำธุรกิจ เรือประมงจนกิจการใหญ่โตหลังจากนั้นหลวงพ่อจึงยกกิจการให้เพื่อนๆทำต่อ

เหตุจูงใจให้บวช
ท่านตัดสินใจเลืองทางในการบวช เพราะท่านต้องการเลือกทางเดินเพราะถ้าไม่เลือกทางเดิน จะต้องโดนบังคับให้แต่งงาน มองดูแล้วว่า การแต่งงานจะสร้างสมมุติไม่มีที่สิ้นสุด และ ท่านต้องการแสวงหาธรรม และศึกษาธรรมให้กระจ่าง และอีกประการ หนึ่งในการตัดสินใจเลือกบวช เพราะท่านต้องการช่วยเหลือคน ถ้าเป็นบรรพชิต ก็จะมีโอกาสช่วยเหลือคนได้มาก ถ้าออกไปข้างนอก แล้ว โอกาสจะช่วยเหลือคนได้น้อยเลยมุ่งทางนี้โดยตรง

อุปสมบท
ตั้งใจจะบวชที่เมืองเลย กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ก็มีอันไม่เป็นดังที่ตั้งใจ เนื่องจากปู่ของพ่อ ซึ่งเลี้ยงหลวงพ่อ ตั้งแต่เล็กๆ และเป็นคนตั้งชื่อท่านว่า “สำราญ” เสียชีวิตลงท่านจึงบวชหน้าไฟให้ปู่ ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๒๔ เวลา ๑๐.๑๕ น.
โดยมีพระครูสังฆรักษ์เฉลิม เป็นพระอุปัชฌาย์ ( ปัจจุบันดำรงค์สมณศักดิ์พระครูเขมาภิยุติ )
พระอธิการบุญชม ปริสุทฺโธ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการดวง ปคุณธมฺโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ณ พัทธสีมาวัดไตรคามบำรุง บ้านโคกนางาม ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และท่านก็ได้บวชมาตลอดจนทุกวันนี้

หลังจากบวช ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านโคก อยู่ในหมู่บ้านเพี้ยฟาน (อยู่ทางทิศใต้ของวัดป่าธรรมอุทยาน) ตอนกลางวันท่านก็อยู่ที่วัดหมู่บ้าน พอกลางคืนท่านก็เข้าไปที่ป่าช้ารกๆ ซึ่งปัจจุบันคือ วัดป่าธรรมอุทยานเพื่อนั่งสมาธิ ตัดความกลัว ละความอยากออกให้หมด จนกระทั้งประมาณใกล้รุ่ง ท่านก็กลับวัดบ้านโคก

หลวงพ่อเคยเดินธุดงค์ไปที่ถ้ำแสงเพชร จังหวัดอำนาจเจริญ และก็ช่วยดูแลหลวงปู่โสม ถิรจิตโต ท่านอยู่ที่วัดถ้ำแสงเพชรปีกว่า ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปตามป่า ตามเขาแล้วกลับมาที่ขอนแก่น

หลวงพ่อท่านมาจำวัด ที่ในป่าช้าเพียงลำพัง และท่านก็เริ่มทำความสะอาดป่าช้า โดยจัดระเบียบให้เรียบร้อย จนเป็นวัดป่าธรรมอุทยานในปัจจุบันนี้ ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม มีบุคคลศรัทธาไปปฏิบัติธรรมมากมาย

วาทะธรรม คำหลวงพ่อ
– ทำกายให้เป็นวัด ทำจิตให้เป็นพระ แล้วหมั่นเจริญสติ เข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ
– กิเลสตัวไหนเกิดก่อน ก็กำจัดก่อน
– อย่าประมาทในบุญเล็กบุญน้อย มีโอกาสก็ให้ทำบุญ
– ธรรมนั้นมีอยู่ประจำโลก จิตของเรานั้นคือองค์ธรรม
ฯลฯ ดูน้อยลง

วัดป่าธรรมอุทยาน ตั้งอยู่ที่ป่าช้าของหมู่บ้านสำราญและบ้านเพี้ยฟาน ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เน้นการปฏิบัติธรรมแนวการเจริญสติ-ดูจิต โดยมีพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร หรือ หลวงพ่อกล้วย เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ท่านเมตตาสั่งสอนศิษย์มาก ติดขัดตรงไหนท่านจะแนะนำให้ บรรยากาศภายในวัดมีความสงบเงียบ ร่มเย็น มีต้นไผ่ขึ้นเป็นกอใหญ่หลายๆ กอ ทำให้ครึ้มร่มรื่น สัปปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา เป็นอย่างยิ่ง สะดวกในการเข้าพักปฏิบัติธรรม อีกทั้งมีหลุมศพไว้ให้เราพิจารณามรณานุสสติและดูจิตตัวเอง พิกัด : https://goo.gl/maps/SdPsv31y2AiBFNJ89

ที่มา เฟซบุ๊กแฟนเพจของวัด

 

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง