โซเชียลแชร์คลิปชายสูงวัยเข้าทำร้ายร่างกายลูกค้าร้านข้าวต้มในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล จ.ขอนแก่น พร้อมกับด่าทอเจ้าของร้านข้าวต้มด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตำรวจสั่งปรับ 500 บาท ขณะที่ชาวบ้านต่างพูดเสียงเดียวกันชายสูงวัยก่อเหตุตลอดกว่า 40 ปี จนทุกคนรู้จักดีว่าต้องหลีกเลี่ยง

         มีกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปชายสูงวัยหัวร้อนทำร้ายลูกค้าร้านอาหารข้างบ้านตัวเอง ฉุนเพราะจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้ส่งกลิ่นเหม็นของท่อไอเสียรถผสมกับกลิ่นทำอาหารที่ร้านข้างบ้าน ด่ากราดถึงพ่อแม่เจ้าของร้านและทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนจะแยกย้ายกันไป ขณะที่เจ้าของร้านบ่นในคลิปว่าตำรวจมาช้า จนผู้ก่อเหตุจะสร้างความอันตรายถึงตัวแล้ว ซึ่งหลังจากโลกโซเชียลได้แชร์คลิปดังกล่าวออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุให้เร็ว

         ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังคนถ่ายคลิปและลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวในจุดเกิดเหตุที่ร้านเฮียแกะข้าวต้มปลา เลขที่ 207-209 ถนนเสริมสวาสดิ์ ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับนางสุระภา ชาญนิธิศธำรงกุล หรือเจ้สาว อายุ 61 ปี เจ้าของร้าน และ นางสาวภิญญาภัช หลวงพิบูลย์ นางสาวบัด อายุ 42 ปี หลานสาวเจ้าของร้าน และเป็นคนถ่ายคลิปดังกล่าวเอาไว้ นางสาวบัด เปิดเผยว่า เป็นคนถ่ายคลิป ระหว่างที่นายเซ้ง อายุ ประมาน 65 ปี ชายสูงอายุ ที่มีบ้านอยู่ติดกับร้านอาหาร ออกมาด่าทอลูกค้าและด่าเจ้าของร้าน ลูกค้าบางรายมาซื้อกับข้าวที่ร้าน โดยมีหลานๆตัวเล็กๆนั่งในรถด้วย ได้จอดรถที่ริมฟุตบาทหน้าบ้านนายเซ้ง นายเซ้งก็ออกมาด่าด้วยคำหยาบคาย และชกต่อย นอกจากนี้ นายเซ้งยังมาด่าทางร้าน ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลายๆครั้ง ต่อเนื่องกันมาหลายเดือน และทุกครั้งที่เกิดเหตุก็จะโทรศัพท์แจ้งตำรวจสภ.พบมาระงับเหตุ แต่เมื่อตำรวจมาถึงทุกอย่างก็สงบแล้ว จึงทำอะไรไม่ได้

         ทางด้านนางสุระภา ชาญนิธิศธำรงกุลหรือเจ้สาว อายุ 61 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ข้าวต้มมากว่า 50 ปี ระยะหลังถูกคุกคามจากนายเซ้ง ที่มีบ้านอยู่ติดกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อลูกค้ามาจอดรถที่ริมฟุตบาทหน้าบ้าน นายเซ้งก็ออกมาด่า บางรายถูกทำร้ายร่างกาย จนต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ในขณะเดียวกันทางร้านก็เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนบ้าน ก็มีการปรับปรุงแก้ไขในร้าน มีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศ ดูดเอากลิ่นอาหารออกจากหน้าเตา และให้ลูกค้าไปจอดรถในจุดอื่น เพราะถ้าจอดริมฟุตบาทที่ติดกับร้านและบ้านนายเซ้ง ลูกค้าจะถูกไล่ หลายครั้งที่ลูกค้าขับรถหนี ไม่มาซื้ออาหาร ไม่มากินข้าวที่ร้าน ทำให้ร้านสูญเสียลูกค้า สูญเสียรายได้

         พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนาย เซ้งที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ติดกับร้านอาหารดังกล่าว นายเซ้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มานาน มาอยู่ก่อนที่ร้านอาหารจะมาเปิดขาย เมื่อร้านอาหารมาเปิดก็ไม่มีการทำท่อระบายอากาศ ไม่มีเครื่องดูดควัน จนทำให้กลิ่นอาหารสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หายใจแสบจมูก แต่ก็ต้องทนมาตลอด และขณะนี้อายุมากขึ้น กลางวันสูดกลิ่นอาหารเข้าไปมากๆ กลางคืนนอนไม่ได้ มีน้ำมูก มีเสมหะ ทุกข์ทรมานมาก เคยร้องเรียนไปหลายที่ก็ไม่มีการแก้ไข ตนเองไม่ใช่คนผิด คนที่ผิดและต้องแก้ไขคือร้านอาหารที่อยู่ติดกัน และล่าสุดเคยทำเรื่องร้องเรียนไปยังเทศบาลเมืองพลให้มาตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว ให้ทางร้านทำการแก้ไขให้ถูกสุขลักษณะทางร้านก็แก้ไขไม่ถูกวิธีซื้อเครื่องดูดควันดูดกลิ่นตัวเล็กมาก็ยังคงส่งกลิ่นอีกเหมือนเดิม ควรจะติดตัวใหญ่

         ในส่วนของรถยนต์ที่มารอจอดซื้อกับข้าวที่ร้านก็ไม่ยอมดับเครื่องยนต์ กลิ่นน้ำมัน ควันจากท่อไอเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เมื่อว่ากล่าวตักเตือนคนขับรถก็ไม่มีใครฟัง จนบางครั้งต้องต่อว่ารุนแรง บางรายไม่พอใจจนเกิดเรื่อง ส่วนลูกค้าที่มาซื้ออาหาร กินอาหารก็ควรจะดับเครื่องด้วย หรือไปจอดจุดอื่น จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนซึ่งกันและกัน ส่วนกรณีที่ถูกตำรวจเรียกตัวไปนั้น ก็ได้ไปพบตำรวจเรียบร้อย แต่ไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหาตำรวจจึงปรับเพียง 500 บาท ยืนยันว่าไม่ผิด ไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นก่อน