นางบุญมา แก้วใส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงวันที่ 20 กันยายน 2564 ได้ไปตลาดนัดกับสามี เพื่อไปซื้อผลไม้และสิ่งของมาทำบุญแจกข้าวประดับดิน วันสารท ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 กันยายน 2564 ซึ่งตรงกับวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 โดยได้สะพายกระเป๋าผ้าสี่เหลี่ยมสีเทา ข้างในมีของใช้ส่วนตัวและกระเป๋าสตางค์ที่ใส่เงินสด 1,500 บาท ซึ่งได้สะพายกระเป๋าดังกล่าวไปเดินตลาด เป็นการสะพายข้าง เมื่อไปถึงตลาดเห็นร้านขายเมล็ดพันธุ์ผักขายอยู่บริเวณทางเข้าตลาดนัด จึงได้แวะซื้อ โดยได้หยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายค่าสินค้า จากนั้นก็เก็บเงินทอดใส่กระเป๋าสตางค์ตามเดิม จากนั้นก็พาสามีเดินไปซื้อผลไม้ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร เมื่อเลือกซื้อผลไม้ได้ครบแล้วก็จะจ่ายเงิน แต่หากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ ทั้งยังพบว่ากระเป๋าผ้าที่สะพายอยู่ถูกกรีดเป็นรอยขาดยาว และคนร้ายก็ได้กระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่จำนวน 1,400บาทไป

            “ยายไม่รู้เรื่องเลยว่า มิจฉาชีพมันลงมือกรีดกระเป๋าช่วงใด เพราะขณะเดินเข้ามาในตลาด บริเวณทางเข้าที่หยุดซื้อเมล็ดพันธุ์ มีคนจำนวนมาก รู้สึกถูกเบียดเสียด แต่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกกรีดกระเป๋า หลังเกิดเหตุยายกับสามีก็ยืนตกใจทำอะไรไม่ถูก สามีจึงเอาเงินที่ติดตัวมาจ่ายค่าผลไม้ให้ จากนั้นมีพลเมืองดีเป็นชายบอกว่า ให้ยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ ห้ามไปไหนจะแจ้งตำรวจให้ แต่ยืนรอนานมาก ไม่เห็นตำรวจมา จึงโทรศัพท์ บอกลูกมารับกลับบ้าน จากนั้นจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.กระนวนให้ติดตามจับกุมมิจฉาชีพ ส่วนกระเป๋าใบที่ถูกกรีด ด้วยความโมโหยายโยนทิ้งไปแล้ว”

            ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทินกร เถาหมอ รอง ผกก.สอบสวน สภ.กระนวน ทราบว่า หลังจากพนักงานสอบสวนรับแจ้งความร้องทุกข์จาก นางบุญมา แก้วใส อายุ 73 ปี ชาวบ้านหนองกุงใหญ่แล้ว ก็ยังมีผู้เสียหายอีก 2 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์อีกเช่นกัน คือถูกมิจฉาชีพกรีดกระเป๋าขณะเดินในตลาดนัดจุดเดียวกัน ซึ่งสรุปได้ว่าวันเดียวมีผู้เสียหายรวม 3 ราย ทรัพย์สินที่หายไปเป็นเงินสด ประมาณ 3,000บาท จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.ส.ภ.กระนวน ทราบเรื่อง จากนั้นผกก.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.กระนวน ลงพื้นที่ออกติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีทันที ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด ซึ่งอาจเชื่อได้ว่าผู้กระทำความผิดน่าจะทำเป็นกระบวนการ มีทั้งคนลงมือ นกต่อ และผู้หวังดี เมื่อลงมือสำเร็จแล้ว ก็จะออกจากพื้นที่ไปก่อเหตุในพื้นที่อื่น ซึ่งเมื่อเรื่องซาและเงียบไปก็จะกลับมาก่อเหตุซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป