ขณะที่ทีมเยือน ชลบุรี เอฟซี ซึ่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน นายสะสม พบประเสริฐ จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเช่นเดิม นำโดยนพนนท์ คชพลายุกต์, เดนนิส มูเลโล่, ชนินท์ แซ่เอี๊ยะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญและกฤษดากาแมน ท่ามกลางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดและยังคงจำกัดจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันเช่นเดิม

เริ่มเกมส์ เจ้าบ้านขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดเกมส์รุกอย่างหนัก และทักทายทีมเยือนในหลายจังหวะแต่ก็ไม่สามารถรอดเงื้อมมือนพนนท์ คชพลายุกต์ ประตูทีมเยือนไปได้ จนกระทั่งนาทีที่ 10 ทีมเยือนได้จุดโทษ เดนนิส มูไลโล หมายเลข 28 รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างไม่มีพลาดทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 เจ้าบ้านปรับเกมส์รุกอาศัยจังหวะตัดเกมส์ แต่เป็นชลบุรี เอฟซี มาได้ลูกที่ 2 จากการยิงของผู้เล่นหมายเลข 8 วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำเป็น 2-0

แต่แล้วจุดเปลี่ยนของเกมส์ก็เกิดขึ้น เมื่อดักลาส โคโบ กัปตันทีมเจ้าบ้านไปทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทีมเยือนทันที แต่ในจังหวะที่กำลังเตรียมการตั้งเตะ ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสิน ได้ขอดูวีเออาร์ จากการทำฟาวล์ดังกล่าว ก่อนที่จะมีคำสั่งตัดสินให้ใบแดงดักลาส โคโบ ทันทีทำให้เจ้าบ้านเหลือผู้เล่น 10 คน ก่อนที่ทีมเยือนจะสังหารจุดโทษแต่ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของจีระวัฒน์ วังกะพันธ์ นายทวารเจ้าบ้านไปได้

แต่เกมส์ยังคงเป็นของทีมเยือนอย่างต่อเนื่องหลังเจ้าบ้านเหลือ 10 คนและมาได้ประตูที่ 3 จากการยิงของเดนนิส มูไรโร กองหน้าตัวเก่งขอทีมหมายเลข 28 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจบครึ่งแรกเจ้าบ้านตามทีมเยือน 0-3

เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านขอนแก่น ยูไนเต็ด เปลี่ยนเกมส์มาเน้นเกมส์รุกมาขึ้นและแม้จะเหลือ 10 คนก็พยามยามต่อบอลเพื่อหวังจบสกอร์และตีตื้นให้ได้ แต่เป็นทีมเยือนชลบุรี เอฟซี ยิงเพิ่มอีก 4 ประตูรวด จากการยิงของวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในนาทีที่ 50 เดนนิส เมไรโร ในนาทีที่ 52 และ 52 ปิดท้ายด้วยวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในนาทีที่ 81

จบเกมส์เจ้าบ้านขอนแก่น ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านให้กับชลบุรี เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 7-0 โดยในเกมส์นี้ผู้เล่นของชลบุรีเอฟซี ทำแฮตทริกในเกมส์ได้ ถึง 2 คนคือ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญและเดนนิส เมไรโร โดยนัดต่อไปเจ้าบ้านสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด จะออกไปเยือน สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ในวันที่ 3 ต.ค.ที่จะถึงนี้