เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เขื่อนอุบลรัตน์) ได้มีเผยแพร่ข้อมูลปริมาณน้ำในในความรับผิดชอบของ กฟผ.โดยเฉพาะที่เขื่อนอุบลรัตน์ ที่พบว่า ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าความจุอ่างวันละ 94.92 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์อยู่ที่ 1,662.15 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 68.36 ของความจุอ่าง ในขณะนี้ที่การระบายน้ำได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรองรับปริมาณน้ำจาก จ.ชัยภูมิ ที่ไหลลงสู่ความจุอ่างและเส้นทางการระบายน้ำจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กำลังเกิดขึ้น

           นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้มีการเรียกประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ในการประเมินสถานการณ์น้ำล่าสุดในพื้นที่ เพื่อเตรียมการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ ตามการระบายน้ำตลอดเส้นทางแม่น้ำชี นั้นน้ำก้อนแรกที่เรียกว่า “หัวน้ำ” ได้ไหลเข้าพื้นที่ อ.แวงน้อย, โคกโพธิ์ไชย และ อ.แวงใหญ่ ของ จ.ขอนแก่น แล้ว แต่ด้วยการเตรียมการับมือที่จังหวัดได้เตรียมการล่วงหน้ามาแล้ว 1 สัปดาห์ ทำให้การอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ รวมไปถึงการตรวจติดตามสถานการณ์และรับมือกับภาวะน้ำหนุนที่ขณะนี้เริ่มนำท่วมกระจายเป็นวงกว้าง จึงเป็นการรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ขณะนี้หัวน้ำก้อนแรกจากชัยภูมิ จะไหลเข้าพื้นที่และคาดการณ์มวลน้ำก้อนใหญ่จะไหลเข้าพื้นที่ขอนแก่นอีกไม่เกิน 4 วันต่อจากนี้ ก็จะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีนั้นมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรมชลประทานได้ปิดประตูระบายน้ำตลอดเส้นทางแม่น้ำชี จากขอนแก่น ถึง ร้อยเอ็ดแล้วทุกจุด ซึ่งหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ มวลน้ำก้อนใหญ่จากแม่น้ำชี ก็จะไหลผ่านขอนแก่น เข้าสู่มหาสารคาม –ร้อยเอ็ด ลงสู่แม่น้ำมูลที่ จ.ยโสธร และไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่ จ.อุบลราชธานี ตามเส้นทางของน้ำได้หมดภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันนี้

           “ขณะที่อีก 1 เส้นทางน้ำที่จังหวัดได้ติดตามสถานการณ์คือการระบายน้ำจากชัยภูมิ ลงสู่แม่น้ำพรม-เชิญ ผ่านพื้นที่ชุมแพ และหนองเรือ ที่มีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คู่ขนานกับน้ำค้างทุ่ง จาก ภูผาม่าน ภูเวียง ที่ไหลลงสู่ความจุอ่างของเขื่อนอุบลรัตน์ในปริมาณที่มากอย่างต่อเนื่องทกวัน ทำให้การระบายน้ำวันนี้ต้องเพิ่มระดับจาก 8 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เป็น 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อรองรับมวลน้ำจากชัยภูมิที่ทยอยไหลเข้าพื้นที่ตามแผนการจัดการน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งในที่ประชุมวันนี้จะมีการพิจารณาทบทวนการระบายน้ำในทุกจุดเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในภาพรมของจังหวัดเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และรัดกุมที่สุดและที่สำคัญคือต้องมีน้ำไว้สำหรับการทำการเกษตรในช่วงฤดูนาปีต่อเนื่องถึงน้ำหรับการอุปโภคและบริโภคในช่วงฤดูแล้ง หลังสิ้นสุดช่วงฤดูฝนอีกด้วย”

           ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า การเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เป็นวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำพองปรับระดับที่สูงขึ้น ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ 2 ฟากฝั่งและพื้นที่ริมตลิ่งในการขนของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไว้ในที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งหากจะต้องอพยพประชาชนกลุ่มเสี่ยงก็จะต้องทำทันที ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำพองจะไหลมาบรรจบกับแม่น้ำชี ที่ ต.พระลับ ในช่วง 2-4 วันนี้ ดังนั้นประชาชนในเขตเมืองและพื้นที่ที่เป็นจุดบรรจบของทางน้ำ จึงต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์และจัดเวรยามตรวจสอบสถานการณ์น้ำและให้มีการประสานงานด้านข้อมูลร่วมท้องถิ่น,ปกครอง,ชลประทานและจังหวัดให้ได้รับทราบร่วมกันตลอดทั้ง 24 ชม.