ศบค.ปรับแผนการกระจายวัคซีนใหม่จากเดิมจัดสรรวัคซีนตามโควต้าการจอง ปรับมาเป็นการจัดสรรให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน…และสั่งชะลอการลงทะเบียนฉีดวัคซีนด้วยแอป “หมอพร้อม”
นี่อาจเป็นโอกาสดีของจังหวัดที่ได้โควต้าวัคซีนน้อยอย่างจังหวัดขอนแก่นครับ
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค.ที่ได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ประชุมเรื่องของวัคซีน ใน 2 ประเด็น คือเรื่องการลงทะเบียน และแผนการแจกจ่ายวัคซีน โดยได้ปรับแผนการลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนใหม่เพิ่มเติม จากเดิมที่ใช้ระบบหมอพร้อม ขณะนี้ขอให้ชะลอการลงทะเบียนด้วยระบบหมอพร้อมไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาหมอพร้อม เป็นระบบการลงทะเบียนใน 3 ข้อหลักคือ การลงทะเบียน การติดตามการฉีดวัคซีนเข็ม 1-2 รวมทั้งผลข้างเคียง และการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน
“ตอนนี้ให้หมอพร้อมทำงาน 2 ข้อหลัง คือ ติดตามการฉีดวัคซีน และเรื่องการออกใบรับรองการฉีดวัคซีน ส่วนระบบการลงทะเบียนนั้น ขอให้มีทางเลือกกับประชาชน เช่น มีแอปพลิเคชั่นเฉพาะของจังหวัด อาทิ จ.ภูเก็ต หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งในวันที่ 27 พฤาภาคม เวลา 12.00 น.ได้ขออนุมัตินายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.แล้ว ที่จะเปิดการลงทะเบียนเป็นการเริ่มต้น เนื่องจาก กทม.มีประชาชนจำนวนมาก ก็จะมีระบบของ กทม.โดยเฉพาะ หรือ จ.นนทบุรี จะมีระบบของตัวเอง ถือเป็นหน้าด่านในการลงทะเบียนของประชาชนเป็นการอำนวยความสะดวก ไม่เป็นคอขวดเหมือนเช่นเดิม” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ลงทะเบียนกับระบบหมอพร้อมโดยเฉพาะ 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มที่เป็น 7 โรคเสี่ยง ยังยืนยันว่าได้ลงทะเบียนไปแล้วอยู่ในระบบของหมอพร้อม ซึ่งจะได้รับวัคซีนในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามา และจะให้เป็นลำดับต้นๆ เพราะถือว่าทุกคนให้ความร่วมมือในการแจ้งความประสงค์ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ทั้งหมดทั่วประเทศข้อมูลก็จะลงมาอยู่ที่ทีมงานหมอพร้อม ทั้งนี้ เลขาฯ สมช.ยืนยันว่าทีมงานหมอพร้อมเข้าใจระบบเป็นอย่างดี และการดำเนินการที่ผ่านมาก็เป็นประโยชน์ และยังคงดำเนินการอยู่เช่นเดิมเพียงแต่ขยับมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการเก็บข้อมูล ส่วนด่านหน้าคือการรับการลงทะเบียนนั้น แต่ละจังหวัดจะเอาโมเดลของกรุงเทพฯ นนทบุรี หรือภูเก็ต ไปใช้ในพื้นที่ของตัวเองก็ได้ หรือจะเดินไปที่โรงพยาบาล หรือพบกับ อสม.ก็ยังสามารถใช้ได้ทุกระบบในการเข้ามารับวัคซีน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับแผนการแจกจ่ายวัคซีน นายกฯในฐานะ ผอ.ศบค.ได้สั่งการให้ทางเลขาฯ สมช.ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค.ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยมีการปรับแผน การกระจายวัคซีนใหม่จากเดิมจัดสรรวัคซีนตามโควต้าการจอง ปรับมาเป็นการจัดสรรให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์อื่นขึ้นมาในเรื่องของการกระจายวัคซีน เช่น การใช้เกณฑ์เรื่องการติดเชื้อ อย่างที่ จ.เพชรบุรี มีการติดเชื้อในกลุ่มคนกว่า 2,000 ราย ต้องจัดสรรโควต้าวัคซีนเพิ่ม เพื่อการควบคุมโรค ดังนั้น อัตราการติดเชื้อหากมีความรุนแรงรายวันก็ต้องนำมาคิดคำนวณด้วย
“นอกจากนี้ ยังต้องคิดในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม ท่องเที่ยวที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อน จะเป็นเกณฑ์ที่จะต้องนำเข้ามาพิจารณาด้วยเล่นกัน รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่นแรงงานในแคมป์ต่างๆ จะต้องได้รับวัคซีนกลุ่มเฉพาะขึ้นมา ซึ่งเช่นที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มขับรถสาธารณะที่สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นการปรับเปลี่ยน ขณะเดียวกันทางมหาวิทยาลัยก็จะมีการรับผู้แจ้งความจำนงในการฉีดวัคซีนโดยทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ก็จะมีการฉีดให้กับกลุ่มเฉพาะถ้าจะมีการเปิดภาคการเรียนขึ้นมา ดังนั้น แผนการแจกจ่ายวัคซีนจะถูกปรับใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า จึงขอแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่าขณะนี้ทางนายกฯในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.รับทุกข้อเสนอ และนำมาสู่การจัดสรรวัคซีนใหม่โดยมอบให้ทางผู้อำนวยการ ศปก.ศบค.ดูในรายละเอียด และพื้นที่ของแต่ละจังหวัดอยู่ ยืนยันว่าเราพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศ และการขับเคลื่อนต่อไป
Leave a Response