ตำรวจชุดสืบสวนภาค4 ตามรวบหนุ่มร้อยเอ็ดคารถทัวร์ หลังตระเวนลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายนายทุน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม 2564 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.4 โดยการนำของ พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รอง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 และเจ้าหน้า กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันจับกุม นายธวัชชัย ไชยฮะนิจ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 4 ต.ปาฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 288/2564 ลง 29 ก.ย.2564 ในข้อหา“ ลักทรัพย์”
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัด ทั้งยังมีมิจฉาชีพ ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซ้ำเติมความลำบากของประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอีก โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2546 เวลาประมาณ 13.30 น.มีคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ ที่ร้าน Kita tea stand สาขาปทุมรัตน์ ต.บัวแดง อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด สภ.ปทุมรัตน์ ได้สืบสวนข้อมูลจากสถานที่เกิดเหตุ และบริษัทรับจ้างขนส่งเอกชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้าย คือ นายธวัชชัย ไชยฮะนิจ อายุ 32 ปี พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลจังหวัดร้อยเอ็ดอนุมัติหมายจับ นายธวัชชัย ไชยฮะนิจ ผู้ต้องหา หมายจับที่ 288/2564 ลง 29 ก.ย.2564 ในข้อหา“ ลักทรัพย์” แต่ผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว จึงได้ประสาน บก.สส.ภ.4 ให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะนำรถจักรยานยนต์ส่งขายให้ลูกค้ายังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่ บขส.จ.เลย จากการสอบสวนผู้ต้องหารายดังกล่าว รับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์เพียงคนเดียวมาหลายครั้ง มีการก่อเหตุในหลายพื้นที่ ที่จำได้ขณะนี้มีทั้งหมด 15 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผล ติดตามทรัพย์คืนและนำผู้ร่วมกระผิดมาดำเนินคดีต่อไป
ทางด้าน พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รอง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว จะมีพฤติกรรมตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ส่งให้นายทุนที่จังหวัดแพร่ เพื่อส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยขนผ่านช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองสอง จึงแบ่งกำลังออกสืบสวนในจังหวัดตามแถบชายแดนแม่น้ำโขง กระทั่งพบผู้ต้องหาตามหมายจับซื้อตั๋วรถโดยสารสายเลย กทม.ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เลย เพื่อจะเดินทางเข้ากทม. เมื่อผู้ต้องหาซื้อตั๋วและขึ้นรถเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาขณะนั่งอยู่ในรถทัวร์
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง นอกจากนี้ยังได้ตระเวน ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ไปทั่วภาคอีสาน โดยจะเลือกรถที่เจ้าของลืมเสียบกุญแจคาไว้ เมื่อเจ้าของเผลอก็จะลักไป ก่อนจะนำภาพรถจักรยานยนต์ที่ได้ลักมาโพสต์ขายทางสื่อสังคมออนไลน์ในราคา 8,000-10,000 บาท จนกระทั่งมีนายทุนจากจังหวัดแพร่(เจ้าหน้าที่ตร.ขอขอปกปิดนาม) ได้รับซื้อเอาไว้ ต่อมานายทุนราวยดังกล่าวก็มีการติดต่อขอซื้อรถบ่อยครั้ง และได้ทำการลักรถจักรยานยนต์ส่งขายให้นายทุนเรื่อยมาจำนวนหลายคัน ซึ่งจะมีการขนส่งรถจักรยานยนต์ที่ลักได้ ส่งไปให้นายทุนโดยใช้บริการบริษัทรับจ้างขนส่งในพื้นที่ต่างๆ และใช้ชื่อเจ้าของรถตามเอกสารใต้เบาะเป็นผู้ส่ง พร้อมให้หมายเลขติดต่อในการส่งเป็นของตนเอง หลังจากนายทุนได้รับรถจักรยานยนต์ไปแล้วก็จะนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของนายทุนรายดังกล่าวนั้น อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Leave a Response