ครอบครัวหมอนวดสาวถึงขอนแก่นแล้ว หวั่นตำรวจเข้าข้างผู้ต้องหา หลังยกเลิกการทำแผนและชี้จุดเกิดเหตุ ด้านลูกชายระบุขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุดแม้จะเป็นชาวต่างชาติแต่คนร้ายก่อเหตุในไทยและกระทำกับคนไทย ขณะที่ล่าสุดผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ด้านตำรวจค้านการประกันตัว

         เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 ต.ค.2564 ที่ บริเวณด้านหน้าร้านดีนะนวดแผนไทย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 3 ถ.รอบเมือง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีครอบครัวของ น.ส.มนัสนันท์ อายุ 45 ปี ชาว ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พนักงานประจำร้านดังกล่าว ซึ่งถูกนายโรเบิร์ต แอนดรู กอร์ดอน อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จังหวัดขอนแก่น ที่ จ.190/2564 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส,ข่มขืนกระทำชำเราจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสและกักขังหน่วงเหนี่ยว ก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกายจนได้รับบากเจ็บสาหัสเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ครอบครัวของ น.ส.มนัสนันท์ ได้มารอดูการควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่ามีการยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุเนื่องจากผู้ต้องหาเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย

         นายบอล อายุ 26 ปี (เจ้าตัวขอสงวนชื่อและนามสกุล) ลูกชายของผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวทุกคนตั้งใจมาดูหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจถึงยกเลิก ซึ่งครอบครัวก็กลัวว่าแม่จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะดูเหมือนว่าตำรวจจะปกป้องผู้ต้องหามากเกินไป ทั้งที่คนร้ายมาอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมายของไทยและที่ผ่านมาทุกคดีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนร้ายที่เป็นคนไทย ตำรวจจะนำตัวคนร้ายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นำตัวมาดำเนินการต่างๆตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่คดีนี้คนร้ายเป็นคนต่างชาติกลับไม่นำตัวมาทั้งที่คนร้ายทำกับแม่ของผมหนักขนาดนี้

         “ถ้าจะอ้างถึงสิทธิ์หรือการที่คนร้ายเป็นคนต่างชาติ ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง คนต่างชาติมาก่อเหตุในประเทศไทย มาทำกระทำกับคนไทย มากระทำกับหญิงไทย มาทำกับแม่ผมขนาดนี้ ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครอบครัวรับไม่ได้อย่างมาก อีกทั้งตำรวจก็ไม่ได้มาพูดคุยหรือมาทำความเข้าใจหรือดำเนินการใดๆที่ถูกต้องและชัดเจน เพราะขณะนี้ครอบครัวของผมจะเดินทางมาจากลพบุรี มาถึงที่ขอนแก่นหมดแล้ว ทุกคนไม่ได้ต้องการจะทำร้ายหรือกระทำการใดๆกับผู้ต้องหาชาวต่างชาติรายนี้ แค่อยากเห็นหน้า อยากพูดคุยว่าทำกับแม่ผมทำไม แค่อยากรู้ว่าพฤติกรรมในการก่อเหตุทำอย่างไร มูลเหตุจูงใจที่ทำกับแม่ของผม”

         น้องบอล กล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าคุณแม่ไม่รู้จักกับผู้ต้องหาคนนี้ เพราะหากรู้จักแม่ก็ต้องบอก แต่จากภาพที่ตำรวจให้ดูชัดเจนว่าแม่ไม่รู้จักกับคนร้ายรายนี้ ดังนั้นครอบครัวทุกคนอยากรู้ว่าคนร้ายชาวอเมริกาคนนี้ทำอะไรกับแม่ผมบ้าง อย่างไรก็ดีวันนี้อาการของคุณแม่ดีขึ้น แต่ยังอยู่ในห้องไอซียู และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด และขยับมือได้แล้ว

         ขณะที่ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นได้รับการส่งตัวผู้ต้องหาจากชุดจับกุม ร่วม บช.ภ.4 ,บช.ทท.,บช.สตม. และ บช.น. ซึ่งทำการสอบปากคำผู้ต้องหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยขับรถจักรยานยนต์ผ่านร้านดังกล่าวและจอดเข้าไปใช้บริการนวดจริง แต่ในระหว่างการนวดนั้นผู้ต้องหามีอารมณ์จึงได้ทำการข่มขืนซึ่งผู้เสียหายได้ขัดขืนและต่อสู้ ซึ่งผู้ต้องหาได้ถูกผู้เสียหายใช้ขวดน้ำหวานสีแดงตีเข้าที่ศีรษะ ก่อนที่คนร้ายจะโกรธและใช้ขวดน้ำหวานสีแดงขวดเดียวกันตีผู้เสียหายกลับคืนจากนั้นได้ใช้เชือกรัดคอและทำร้ายร่างกายจนผู้เสียหายนอนแน่นิ่งและขับรถหลบหนีไปที่ เขต อ.บ้านไผ่ และก่อเหตุพยายามข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี ขณะช่วยครอบครัวขายน้ำผึ้งอยู่ริมถนน และพลเมืองดีมาช่วยไว้ได้ทัน

         “ขณะนี้ภรรยาของผู้ต้อหาซึ่งเป็นชาวอำนาจเจริญและทนายความส่วนตัวได้เดินทางมาที่ขอนแก่นแล้ว ซึ่งขอยืนยันว่าตำรวจขอนแก่นดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดและขณะนี้ สภ.บ้านไผ่ ได้ประสานขออายัดตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีในข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราเพิ่มเติม ซึ่งพนังงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ขออำนาจศาลฝากขังในระหว่างการสอบสวนผัดแรกในวันนี้พรุ่งนี้ ( 4 ต.ค.) โดยในชั้นสอบสวนนั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหารายนี้แล้ว”