เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักอาศัยของนางหนูเพียร ตรีศรี อายุ 60 ปี ที่บ้านเลขที่ 91 บ้านโซ่ง ม. 1 ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น มารดาที่ถูกนายชัยพิชิต ตรีศรี อายุ 28 ปี ลูกชาย ซึ่งติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ และมารดาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชนบท ให้ดำเนินคดีกับลูกชาย และให้นำลูกชายเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดให้ด้วย

        โดยก่อนจะลงพื้นที่ไปยังบ้านของนางหนูเพียร ตรีศรีนั้น ในช่วงเช้านางหนูเพียร ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชนบท ให้ดำเนินคดีกับลูกชาย ทีทำร้ายร่างกายมารดา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการให้และแจ้งข้อกล่าวหาให้นายชัยพิชิต ตรีศรี อายุ 28 ปี ลูกชายนางหนูเพียรทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในข้อหา ทำร้ายร่างกายบุพการี

        ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอทราบรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว จากนั้นทั้งหมดพจึงลงพื้นที่ไปพบกับนางหนูเพียรที่บ้านพัก และเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปถึงบ้านเลขที่ 91 บ้านโซ่ง ม. 1 ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ก็พบว่าเป็นบ้านยกพื้นสูง ชั้นล่างมีการกั้นเป็นห้องนอน ส่วนชั้นบนเป็นที่นอนของลูกชาย โดยนางหนูเพียร ได้แจ้งว่า อาศัยอยู่ที่บ้านกับลูกชายเพียงสองคน และลูกชายมักจะรื้อเอาสิ่งของในบ้านไปขาย เพื่อเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ถ้าได้เสพยาบ้าก็จะอยู่เงียบคนเดียวบนบ้าน แต่ถ้าไม่ได้เสพยาบ้าก็จะทำร้ายร่างกายแม่ โดยลูกชายมีพฤติกรรมเช่นนี้มากว่า 3 ปีแล้ว และในวันเกิดเหตุ ลูกชายขอเงิน แต่ไม่ได้ให้เพราะไม่มี ลูกชายจึงใช้แม่กุญแจทำร้าย ใช้เสียมทุบตีจนบาดเจ็บ ขณะนี้ยอมรับว่า รู้สึกปลอดภัย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานให้ความสนใจมาช่วยเหลือ นำตัวลูกชายไปควบคุม ตัวเองก็มีความปลอดภัย ใช้ชีวิตปกติได้แล้ว

        จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ทราบว่า ได้รับคำสั่งจากนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นกับนางหนูเพียร ตรีศรีอายุ 60 ปี ชาวบ้านโซ่ง และเมื่อทราบรายละเอียดแล้วก็ได้แจ้งสิทธิ์การขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาให้นางหนูเพียรทราบ

        พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ก็ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อ ให้การช่วยเหลือมารดา ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดี ทำร้ายร่างกายบุพการี ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งสิทธิ์ให้ผู้เสียหายทราบเรียบร้อยแล้ว

        นอกจากนี้ยังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลโครงการนาคาพิทักษ์ของตำรวจภูธรภาค 4 ในการที่จะดูแลนางหนูเพียร หรือมารดาที่เป็นผู้เสียหาย และผู้ป่วยหรือลูกชายของนางหนูเพียร เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจทั้งแม่และช่วยดูแลลูกชาย ที่อาจจะป่วยทางจิตเหตุเวชก่อเหตุรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมีชีวิตที่สุขสงบได้