อธิบดีอัยการภาค 4 รุดเยี่ยมเหยื่อฝรั่งโหด แจ้งสิทธิ์ค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา พร้อมส่งทีมอัยการดำเนินคดีทางแพ่งคู่คดีอาญาเอาผิดผู้ต้องหาและรักษาผลประโยชน์ของคนไทยให้ถึงที่สุด ย้ำชัดผู้ต้องหาต่างชาติก่อเหตุในไทยต้องได้รับโทษตามกระบวนกฎหมายไทยโดยไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 4 ต.ค.2564 ที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรมทั่วไป 2 ชั้น 7 อาคารคุณากรปิยชาติ รพ.ขอนแก่น นายปริญเดช ศิริพานิช อธิบดีอัยการภาค 4 พร้อมด้วย น.ส.มณีวรรณ ธรรมปรา อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี สำนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น นำคณะอัยการและเจ้าหน้าที่นิติกรและการบังคับคดี เข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.มนัสนันท์ อายุ 45 ปี พนักงานร้านดีนะนวดแผนไทย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 3 ถ.รอบเมือง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น งถูกนายโรเบิร์ต แอนดรู กอร์ดอน อาย 37 ปี สัญชาติอเมริกัน ก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในร้านดีนะนวดแผนไทย เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและนำตัวส่งศาล จ.ขอนแก่น เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
โดยคณะอัยการพร้อมด้วยทีมแพทย์และพยาบาลได้เข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.มนัสนันท์ ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถ่ายภาพหรือเข้าไปภายในห้องพักฟื้นผู้ป่วยโดยเด็ดขาด โดยคณะได้ใช้เวลาเยี่ยม สอบถามอาการและพูดคุยกับผู้เสียหายนานกว่า 20 นาทีจึงแล้วเสร็จ
นายปริญเดช ศิริพานิช อธิบดีอัยการภาค 4 กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่การเข้าเยี่ยมอาการผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีว่าวันนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น พยักหน้าโต้ตอบกับทีมแพทย์ พยาบาลและคณะอัยการที่เข้าเยี่ยมได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรยังคงต้องอยู่ในความดูแของแพทย์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีฯนั้นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งทางคดีนั้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออำนาจศาลฝากขังในช่วงของการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ดังนั้นแม้ว่าขณะนี้ในคดีอาญาพนักงานอัยการจะยังไม่รับสำนวนคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการให้บริการเชิงรุกและดำรงไว้ซึ่งกฎหมายของประเทศไทย แม้ผู้ต้องหาจะเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยและกระทำกับคนไทย ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมายของไทยตามที่ได้บัญญัติไว้ ดังนั้นในคดีอาญา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา คือนายโรเบิร์ต 3 ข้อกล่าวหาฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส, ข่มขืนกระทำชำเราจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และกักขังหน่วงเหนี่ยว ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสำนวนมายังอัยการ เจ้าพนักงานอัยการจะแต่งตั้งองค์คณะที่รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบสำนวนในคดีดังกล่าวนี้อย่างรัดกุมทันที
“คดีความที่เกิดขึ้นเป็นที่สนใจจากสาธารณชนอย่างมาก ทั้งยังคงเป็นคดีที่ผู้ต้องหาชาวต่างชาติก่อเหตุในประเทศไทยและกระทำกับคนไทย ดังนั้นการดำเนินงานด้านคดีอาญา ซึ่งทราบมาว่าผู้ต้องหาก่อเหตุต่างกรรมต่างวาระ ทั้งในเขตรับผิดชอบของ สภ.เมืองขอนแก่น, สภ.บ้านไผ่ และ สภ.บ้านเป็ด ซึ่งคดีอาญาก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่การที่คณะอัยการลงพื้นที่วันนี้คือการแจ้งสิทธิ์ให้กับผู้เสียหายและญาติ รวมไปถึงคนในครอบครัวของผู้เสียหายได้รับทราบคือคดีแพ่ง ในการที่จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งขณะนี้องค์คณะของอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี สำนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ แนะนำและเตรียมประกอบสำนวนการสั่งฟ้องในคดีนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพลเรือนของไทยอย่างเต็มที่ที่สุด”
นายปริญเดช กล่าวต่ออีกว่า การดำเนินคดีแพ่ง ที่สำนักงานอัยการได้เข้ามาดำเนินการคู่ขนานกับคดีอาญาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการนั้น ครอบครัวของผู้เสียหายและผู้เสียหายได้รับทราบแล้วและเข้าสู่ขั้นตอนของการดำเนินงานด้านกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการที่รับผิดชอบ ซึ่งแม้ผู้ต้องหารายนี้จะก่อเหตุในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องกับคดีทุกคนสามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ต้องหารายนี้ได้ ซึ่งอัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย การให้คำแนะนำ การเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่จะประกอบสำนวนในคดีแพ่ง ที่คณะทำงานจะสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวได้ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Response