ปภ.จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายฝายน้ำล้นที่ อ.โคกโพธิ์ไชย ถูกน้ำป่าจากภูผาแดงกัดเซาะจนขาด มวลน้ำทะลักมุ่งหน้าหนุนน้ำชี ขณะที่เทศบาลตำบลภูผาแดงเตรียมเข้าซ่อมแซมฝายเพื่อกักเก็บน้ำในช่วงหน้าแล้ง แต่ติดปัญหามวลน้ำเยอะไม่สามารถลงมือซ่อมได้

         เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 2564 ที่ริมฝายน้ำล้นห้วยลำตะเกียงตอนบน บ้านโสกใหญ่ หมู่ 5 ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง ปภ.จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสวี เนาว์หนองหวาย รองนายกเทศมนตรีตำบลภูผาแดง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากฝายถูกน้ำป่าจากภูผาแดงไหลเชี่ยว กัดเซาะคอฝายจนขาดกว้างประมาณ 3 เมตร โดยมวลน้ำจะไหลไปทางลำห้วยกลอย และลงสู่ลำน้ำชี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำไม้มาตอกพื้นให้เป็นแนวกั้นห้ามประชาชนเข้าใกล้เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย และจากการสำรวจปริมาณน้ำพบว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลงดลงอย่างช้าๆ แต่ยังคงไหลเชี่ยวและแรง ซึ่งอย่างไรก็ตามจากสภาพอากาศในช่วงนี้ยังคงมีฝนตกปรอยๆในพื้นที่และตกหนักในหลายพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าปริมาณน้ำอาจจะสูงขึ้นอีก หากไม่มีฝนตกก็จะค่อยๆลดลง

         นายสวี เนาว์หนองหวาย รองนายกเทศมนตรีตำบลภูผาแดง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ ทางเทศบาลได้ทราบเรื่องและเข้าสำรวจทันทีเมื่อ 2 วันที่แล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำมามากและเริ่มกัดเซาะจนขาด โดยทางเทศบาลเองได้เตรียมรถเครื่องจักรและอุปรกรณ์สำหรับซ่อมแซมฝายให้สามารถกักเก็บน้ำได้ตามปกติ แต่ติดปัญหาว่าปริมาณน้ำมีมากจึงยังไม่สามารถลงมือซ่อมแซมได้ทันที ซึ่งหากน้ำลดลงในระดับที่ทีมช่างจะสามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ก็จะลงมือทันที โดยเบื้องต้นนั้นจะนำดินมากันเป็นคันขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนทิศทางน้ำให้ไหลล้นฝายลงไป และจะซ่อมแซมส่วนที่ขาดโดยเร็วที่สุด เพื่อรีบเปิดคันน้ำให้ไหลตามปกติจะได้ไม่กระทบกับพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่เหนือน้ำ แต่ในส่วนของพื้นที่การเกษตรนั้นจะได้รับความเสียหายจากปริมาณน้ำที่มีมาก เข้าท่วมขังพื้นที่การเกษตรไปแล้วหลายพันไร่

         ด้านนายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง ปภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากทราบเรื่องก็ได้ลงพื้นที่มาสำรวจ โดยเบื้องต้นนั้นทางเทศบาลฯซึ่งเป็นแม่งานได้มีการตั้งเต็นท์เฝ้าสังเกตุการณ์ระดับน้ำ และจะเริ่มดำเนินการซ่อมแซมทันทีหลังจากที่น้ำลดลงในระดับที่เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าไปซ่อมได้ โดยทาง ปภ.เองจะคอยสนับสนุนหากการซ่อมแซมฝายนี้เกินกำลังของทางเทศบาลฯ ซึ่งในภาพรวมนั้นพื้นที่ที่จะได้รับความเสียหายส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่การเกษตร ในส่วนบ้านเรือนประชาชนนั้นได้ประสานทางอำเภอคอยเฝ้าระวังถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่จากการประเมินสถานการณ์นั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ฝายดังกล่าวนี้เป็นฝายน้ำล้นที่ชาวบ้านใน 2 ตำบล คือตำบลนางาม และตำบลบ้านโคก ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันจะต้องมีการซ่อมแซมในลักษณะที่ยั่งยืนเพื่อมองในภาพรวมถึงการช่วยเหลือในช่วงฤดูแล้วต่อไปด้วย