การเมืองขอนแก่นเดือด มือมืดร่อนจดหมายนายกเทศชื่อดังขอลาออก อ้างปัญหาสุขภาพ ขณะที่เจ้าตัวถึงกับอึ้ง ไม่รู้เรื่องมาก่อน ตรวจสอบพบปลอมลายมือชื่อ, ตราประทับ และเอกสารของทางราชการ แจ้งความเอาผิดคนก่อเหตุ คาดทำเป็นขบวนการและเกิดจากปัญหาการเมืองเนื่องจากเพิ่งรับตำแหน่งนายกได้เพียง 4 เดือน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ต.ค.2564 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลพระบุ ต.พระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น นายปรีชา เมืองแดง นายกเทศมนตรีตำบลพระบุ นำเอกสารหลังฐานการปลอมแปลงลายมือชื่อ ตราประทับ และเอกสารของทางราชการ ลงวันที่ 9 ก.ย.2564 ที่ออกโดยสำนักงานเทศบาลตำบลพระบุ ถึง ผวจ.ขอนแก่น เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯ รวมทั้งการลงบันทึกประจำวันและการเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวมาแสดงต่อสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนสะท้อนถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบระดับสูงทั้งระดับจังหวัด, กระทรวง รวมไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าว เนื่องจากเพิ่งรับตำแหน่งได้ 4 เดือน และไม่ทราบเรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายปรีชา เมืองแดง นายก ทต.พระบุ กล่าวว่า ขณะนั่งรถกลับจากการประชุมที่ ศาลากลางจังหวัดได้รับโทรศัพท์จากนิติกร สำนักงานท้องถิ่น จ.ขอนแก่น เพื่อยืนยันการขอลาออกจากตำแหน่ง นายกเทศมนตรี ซึ่งตนเองนั้นถึงกับอึ้ง เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อน และไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงรีบกลับไปที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อเข้าพบกับนิติกรสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดในการขอตรวจสอบเอกสารดังกล่าว ซึ่งก็พบว่าเอกสารดังกล่าวนั้นมีจริง ออกโดยสำนักงานเทศบาลตำบลพระบุ ลงวันที่ 9 ก.ย.2564 ที่ ขก/85501 แต่ไม่ระบุเลขหนังสือ ทั้งยังคงมีลายมือชื่อที่มีการปลอมแปลง รวมถึงตราประทับชื่อและตำแหน่งปลอม เนื่องจากตราประทับตำแหน่งของตนเองนั้น มีขนาดที่เล็กกว่า และลายมือชื่อนั้นก็ผิดไปจากเดิม ซึ่งเมื่อเห็นหนังสือจึงคัดค้านและชี้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น และได้มีการทำหนังสือคัดค้านเอกสาดังกล่าวทันที เนื่องจากหนังสือระบุว่า การลาออกจากตำแหน่งนั้นเกิดจากปัญหาสุขภาพ ทำให้ไม่สามารถที่จะปฎิบัติหน้าที่ได้ ทั้งที่ตนเองเพิ่งชนะการเลือกตั้ง และ กกต.มีการรับรองและเข้าทำงานได้เพียง 4 เดือน
“เมื่อเห็นหนังสือก็มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีการทำหนังสือคัดค้านตามข้อกฎหมาย มีการปรึกษาทนายความและทีมกฎหมาย ทำให้ขณะนี้จังหวัดได้มีการประสานงานมายังนายอำเภอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ผมก็ได้มีการแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น แยกเป็นการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าเอกสารดังกล่าวนั้นไม่ใช่ของตนเองและการแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เบื้องต้นข้อหาปลอมแปลงเอสารของทางราชการ,การปลอมลายมือชื่อ,หมิ่นประมาทและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งทีมทนายความได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ในการเอาผิดทุกข้อกล่าวหากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งขบวนการ การสอบสวนและหากสาวไปถึงใครก็จะยืนยันเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งคดีอาญา และทางวินัย ของพนักงานในเทศบาลฯที่เกี่ยวข้องทุกคน”
นายปรีชา กล่าวต่ออีกว่า เดิม ดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาเทศบาลฯที่ ทต.พระบุ มา 2 สมัย และในการเลือกตั้ง เทศบาลฯที่ผ่านมา ได้รับความไว้วางใจจากชาว ต.พระบุ ให้ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี เมื่อการเลือกตั้งในวันที่ 28 มี.ค. และ กกต.ได้รับรองและมีการแถลงนโยบายต่อสภาเพื่อรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่นายกเทศมนตรีฯสมัยแรกและทำหน้าที่มาได้เพียง 4 เดือน แต่อยู่ๆก็มีเอกสารดังกล่าวเกิดขึ้นและมีการส่งถึง ผวจ.ขอนแก่น ซึ่งเมื่อตรวจสอบไทมไลน์ของเอกสาร พบว่า หนังสือลาออกฉบับปลอมนี้ ส่งจาก ทต.พระบุ วันที่ 9 ก.ย. จากนั้นศาลากลางจังหวัดลงรับ 13 ก.ย. และส่งต่อมาที่ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดในวันเดียว ก่อนจะมีคำสั่งให้มีการตรวจสอบวันที่ 14 ก.ย. โดยตนเองได้เข้าชี้แจงในวันที่ 16 ก.ย. และทำหนังสือคัดค้านและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งทางอาญาและวินัย ก่อนที่จังหวัดจะแจ้งมายัง นายอำเภอพระยืนให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 12 ต.ค. โดยจะต้องสรุปรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ต.ค.
“ผมมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสถานการณ์การเมืองในพื้นที่เนื่องจากเป็นนายกเทศมนตรีสมัยแรก ที่เอาชนะคู่แข่งมาได้ และแม้ว่า สมาชิกสภาฯของผม จะมีเพียง 5 คนจากทั้งหมด 12 คน ทุกคนตั้งใจอาสามาทำงานเพื่อพัฒนาพื้นที่ มาทำงานเพื่อประชาชนในการที่จะเดินหน้าแก้ไปปัญหาในด้านต่างๆที่ตรงจุดและเป็นไปตามความต้องการของคนพระบุ แต่กลับมาถูกคนภายในองค์กร หรือบุคคลอื่นๆที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน กระทำการโดยอ้างอิงหลักของกฎหมายในการให้ผมนั้นลงจากตำแหน่งด้วยการลาออก ดังนั้นเรื่องนี้ผมยอมไม่ได้และขอเดินหน้าค้นหาความจริงให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นใน จ.ขอนแก่น และ อปท.ในประเทศไทย ที่มีกลโกงการเมือง โดยใช้อำนาจรัฐและข้อกฎหมายมากระทำการในลักษณะเช่นนี้ ทต.พระบุ เราทำงานเป็นทีม ทำงานด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย อยู่กันแบบพี่น้อง พ่อ แม่ ลูก แบบคนในครอบครัว ดังนั้นการกระทำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของผม และผมจะต้องเข้มงวดและรัดกุมมากขึ้น ทั้งพนักงานเทศบาลฯในกำกับของผม รวมทั้งคนในพื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่คนที่ทำผิดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งวินัยและอาญา ทั้งหมด”
ขณะที่นายชินกร แก่นคง นายอำเภอพระยืน กล่าวว่า ขณะนี้ อำเภอได้สั่งการให้คณะกรรมการระดับอำเภอ และ ระดับเทศบาลฯ ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ที่มาขอหนังสือ ขั้นตอนการส่งหนังสือ เพราะหากไม่มีคนทำเอกสารชิ้นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีการส่งตรงถึง ผวจ.ขอนก่น ข้ามจั้นตอนการบริหารงานในระดับอำเภอไปได้อย่างไร ซึ่งภายในวันที่ 20 ต.ค. คณะกรรมการสอบสวนในระดับอำเภอจะสรุปสำนวนส่งให้กับ ทาสงจังหวัดได้รับทราบ รวมทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทั้งภายในสำนักงานและที่ศาลากลางจังหวัดว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง เนื่องจากเป็นการใช้ข้อกฎหมาย และเอกสารของทางราชการมากระทำการในลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้ ซึ่งจากการสอบสนใครผิดก็ว่าไปตามผิด ตามระเบียบวิธีปฎิบัติของกระทรวงมหาดไทย ส่วนการดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่ผู้เสียหาย คือนายกเทศมนตรีพระบุ ได้แจ้งความเอาผิดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Response