มิจฉาชีพในคราบนักบุญเดินเรี่ยไรตามบ้านคน อาศัยจังหวะปลอดสายตาจากเจ้าของบ้าน ก่อเหตุขโมยเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน ก่อนเดินหลบหนีไปอย่างลอยนวล แจ้งความตำรวจไม่ลงบันทึกประจำวันให้เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ตำรวจเร่งลงพื้นที่แกะรอยล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว พร้อมตรวจสอบกรณีมีการเรี่ยไรมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่

          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อไปพบกับนางบัวฮอง ในแก้ว อายุ 70 ปี ชาว ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกมิจฉาชีพมาในคราบนักบุญเดินถือขันเรี่ยไรบุญกฐิน เดินเข้าไปในบ้านที่มีแต่คนแก่อยู่กันเพียง 2 คน ขโมยโทรศัพท์ไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา

          นางบัวฮอง ในแก้ว อายุ 70 ปี กล่าวว่า ที่บ้านเคยเปิดเป็นร้านตัดผมผู้ชายชื่อร้าน เพื่อนชาย มีสามีเป็นช่างตัดผม แต่พอโควิดระบาด จึงปิดร้าน และประตูทางเข้าออกร้านก็จะปิดล็อค เพราะไม่รับลูกค้า โดยก่อนเกิดเหตุในวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ตนกลับมาจากตลาด เมื่อมาถึงบ้านก็วางกระเป๋าสะพายพร้อมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ หัวเหว่ย ราคา 4,900 บาทไว้ที่โซฟา ส่วนสามีนั่งทานข้าวอยู่ในบริเวณเดียวกัน ลืมล็อคประตู จากนั้นได้เดินเข้าไปเอายาที่หลังร้าน ต่อมาสามีเดินมาหาที่หลังร้านพร้อมกับบอกว่า มีคนมาเรี่ยไรเงินกฐิน ตนจึงเดินออกมาพบว่ามีหญิงรูปร่างผอม ผมประบ่า อายุประมาณ 30 ปี พูดภาษาอีสาน นั่งอยู่ที่โซฟาใกล้กับจุดที่วางประเป๋าและโทรศัพท์มือถือ จึงถามว่า มาจากไหน ทำไมต้องมาเรี่ยราย หญิงรายดังกล่าวตอบว่ามาจากบ้านไผ่ พร้อมกับยื่นไม้หนีบเงินมาให้ 1 อัน จึงร่วมทำบุญด้วย 20 บาท จากนั้นหญิงรายดังกล่าวก็เดินออกจากร้านไป

          นางบัวฮอง กล่าวอีกว่า หลังจากหญิงรายดังกล่าวออกไป จึงมองไปที่กระเป๋าก็ไม่เห็นโทรศัพท์มือถือ จึงเดินหาจนทั่วทั้งร้านก็ไม่พบ จึงให้หลานสาวพาไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.พล ตำรวจรับรู้ด้วยว่าวาจา แต่ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันให้ ทั้งยังบอกว่า ไม่มีวงจรปิด ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าหญิงรายดังกล่าวคือคนร้าย หากกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน จะถูกฟ้องกลับได้ เมื่อไม่ได้แจ้งความ จึงเดินทางกลับบ้าน ก็เห็นมีตำรวจสายตรวจขับรถผ่าน แต่ไม่มีใครมาสอบถามหรือสอบสวนรายละเอียดอะไร จึงไม่รู้ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากมีปัญหา จึงนำเรื่องมาบอกลูกสาว ลูกสาวจึงโพสต์เฟซบุ๊ก Sasinipha Naikaeo เตือนภัย มีมิจฉาชีพมาในคราบนักบุญเดินเรี่ยไรบุญกฐิน มีผู้หญิงหนึ่งคนเดินเข้าไปในบ้านที่มีแต่คนแก่ เปิดประตูเข้าไปเองเลย เข้าไปนั่งเก้าอี้ในบ้านซึ่งมันมีกระเป๋าสะพานของยายวางอยู่พร้อมโทรศัพท์ ใช้จังหวะที่คนแก่เผลอขโมยโทรศัพท์ไปทุกคนระวังกันด้วยนะคะช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดเยอะมาก อย่าวางของมีค่าถ้าไม่ได้ล็อคบ้าน

          ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.จันทโรภาส ชัยลา รองผกก.(สอบสวน) สภ.พล จ.ขอนแก่น ถึงกรณีของนางบัวฮอง ในแก้ว อายุ 70 ปี ว่าจากการตรวจสอบทราบว่า ช่วงเที่ยงของวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมานาย นางบัวฮองมาที่สถภ.พล และได้แจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูเบศ ศรีเปี้ย รอง สว.สอบสวน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่พบเบาะแสของคนร้าย

          รองผกก.(สอบสวน)สภ.พล กล่าวอีกว่า น่าเชื่อว่าเป็นการหากินของมิจฉาชีพ ที่จะอาศัยช่วงที่มีงานบุญกฐิน ออกมาทำการเรี่ยไร ซึ่งจริงๆแล้วไม่สามารถทำได้ แต่ประชาชนมักจะมองว่าเป็นเรื่องของการทำบุญกุศล จึงร่วมทำบุญไป แต่มิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบนักบุญก็มักจะมาพร้อมๆกัน จึงฝากเตือนประชาชนว่าหากบ้านใด มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน ควรปิดประตูล็อคให้เรียบร้อย ทรัพย์สินก็จัดเก็บให้มิดชิด เพื่อป้องกับการสูญหาย

          “กรณีของนางบัวฮอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กำลังติดตามสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายรายดังกล่าว เชื่อว่า ฉวยโอกาสลงมือตอนที่ไม่มีคนอยู่ในจัดดังกล่าว ลักเอาสโทรศัพท์ไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดใกล้เคียงและบนถนนที่คาดว่าคนร้ายจะออกเรี่ยไร หากพบเบาะแสหรือพบตัวคนก่อเหตุ จะนำมาสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย”