พ่อแม่วอนตำรวจ ตามจับมือปืนให้ได้โดยเร็ว หลังลูกชายถูกฆ่าตายในบ้านสวน โดยไม่ทราบสาเหตุ พบผู้ตายถูกยิงด้วยกระสุนลูกปลายเป็นรูเต็มหน้าอก ลำคอ และแขน ผกก.สภ.ซำสูงเผย ตามประกบผู้ต้องสงสัย ยังไม่ตัดประเด็นการฆ่าใดๆทิ้ง โดยเฉพาะปมชู้สาว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ที่สภ.ซำสูง จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นำทีมสืบสวนลงพื้นที่ สภ.ซำสูง เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) ยิง นายไพรัตน์ โนนทิง อายุ 52 ปี ตายที่พื้นดินหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ในบ้านสวนที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของบ้านโนน ม.2 ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น โดยมี พ.ต.อ.ประศาสตร์ แน่นอุดร ผกก.สภ.ซำสูง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ซำสูงร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย ที่ก่อเหตุฆ่าคนตายในครั้งนี้ ทั้งเดินทางไปสอบสวนบิดา มารดาของคนตาย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนตายสัญจรผ่านไปมา พร้อมทั้งบ้านผู้ต้องสงสัยซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล และจัดทีมตามประกบผู้ต้องสงสัยเนื่องจากยังไม่พบเห็นในหมู่บ้าน

พ.ต.อ.ประศาสตร์ แน่นอุดร ผกก.สภ.ซำสูง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 20.00 น.คืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะมีชาวบ้านที่นอนเฝ้าข้าวที่ตากอยู่ในทุ่งนา ได้ยินเสียงปืนดังมาจากบ้านสวนของคนตาย ในช่วงเวลาดังกล่าว กระทั่งเช้าวันที่ 21 พ.ย.2564 เวลา 06.30 น.ร.ต.อ.สุริยา ศรีหามาตย์ รองสว.สอบสวน รับแจ้งเหตุจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนว่า มีคนถูกยิงตายในบ้านสวน ขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุด้วย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายไพรัตน์ โนนทิง นอนตายอยู่บนพื้นดินหน้าบ้านพัก ในสภาพนอนคว่ำหน้า ใส่เสื้อยืดคอโปโลสีฟ้า สวมกางเกงขายาว ถูกยิงที่บริเวณหน้าอก ลำคอ และแขนซ้ายด้วยกระสุนลูกปลาย จนร่างเป็นรูพรุน กระสุนฝังใน เสียชีวิตมามากว่า 6 ชม.สภาพศพแข็งทื่อ เลือดไหลออกจากปากและจมูก แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยนายทองสุข โนนทิง อายุ 78 ปี บิดา เป็นผู้พบศพเป็นคนแรก

จากการสอบสวนนายทองสุข บิดาคนตาย ให้การว่า นายไพรัตน์ ลูกชาย มีภรรยาเป็นคนจังหวัดลำปาง พากันไปทำมาหากินที่กรุงเทพมหานคร ช่วงโควิดระบาด ได้พากันกลับไปอยู่บ้านภรรยาที่จังหวัดลำปาง และช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บิดา มีปัญหาเรื่องตา จึงให้นายไพรัตน์มาดูแลและเลี้ยงวัวช่วย นายไพรัตน์จึงมาอยู่กับบิดามารดาที่บ้านโนน โดยอาศัยหลับนอนและเฝ้าวัวอยู่ที่บ้านสวน จุดเกิดเหตุ

ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวัน วันที่ 20 พ.ย.นั้น นายไพรัตน์ และเพื่อนอีกหลายคนมาช่วยบิดา กรอกข้าวเปลือกที่ตากแดดไว้ที่บ้านสวน ใส่กระสอบนำไปเก็บไว้ที่บ้าน ซึ่งมีการเลี้ยงอาหารและดื่มสุราบ้างเล็กน้อย ช่วงเย็นต่างก็แยกย้ายกัน บิดามารดาก็กลับบ้านพักผ่อน กระทั่งเช้ามืดวันที่ 21พ.ย.นายทองสุข บิดา ออกมาที่บ้านสวน เพื่อจะเอาวัวออกไปล่ามให้กินหญ้า ก็ไม่เห็นลูกชายตื่นมาช่วย บิดาจึงเดินไปตามที่บ้านพัก ก็พบนายไพรัตน์นอนคว่ำหน้าที่พื้นดิน คิดว่าลูกชายเมา แล้วนอนหลับ จึงไปจับที่แขนปลุกให้ตื่น ปรากฏว่าลูกชายอยู่ในสภาพแข็งทื่อแล้ว จึงรีบบอกภรรยาให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ

ผกก.สภ.ซำสูง กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสของมือปืนในทุกประเด็น ทั้งเรื่องชู้สาว ต้องสืบสวนว่านายไพรัตน์สนิทกับใครเป็นพิเศษหรือไม่ และมีหนี้สิน มีปัญหาส่วนตัวกับใครบ้าง เคยมีเรื่องขัดแย้งหรือถูกข่มขู่จากใครหรือไม่ ต้องสืบสวนให้ครบทุกประเด็น แต่ในขณะนี้ บิดา มารดาก็ยืนยันว่า ลูกชายเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร สนิทกับเพื่อนบ้านตามปกติ แต่ไม่เคยมีเรื่องข่มขู่หรือบาดหมางกับใคร จึงไม่แน่ใจว่าลูกชายถูกฆ่าตายเพราะสาเหตุใด

ทางด้านนายทองสุข โนนทิง อายุ 78 ปี บิดาคนตาย เปิดเผยว่า ลูกชายถูกฆ่าด้วยสาเหตุใด บอกตรงๆว่า ตอบไม่ได้ เพราะลูกไม่เคยเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง อีกทั้งลูกชายก็ไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกับใคร แต่ลูกชายก็สนิทสนมกับผัวเมียเจ้าของปั๊มน้ำมันในหมู่บ้าน ที่ไปมาหาสู่กัน คอยช่วยเหลือกัน แต่ไม่เคยเห็นว่าจะมีปัญหากัน จึงอยากให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนหาตัวมือปืน คนที่ลงมือฆ่าลูกชายให้ได้โดยเร็ว และถ้าตำรวจจับมือปืนได้ หากมือปืนจะมาขอขมาพ่อแม่ ก็ยอมให้มา และจะถามว่า ฆ่าลูกชายทำไม เขาไปทำอะไรให้ ฆ่าแล้วได้อะไรกลับมา