ขอนแก่น เจ้าของบ้านวอนเจ้าของรถบรรทุกปูนรับผิดชอบชนกำแพงบ้านแล้วหนี

16-9.00_00_14_09.Still035

เจ้าของบ้านชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น วอนเจ้าของรถเทรลเลอร์บรรทุกปูนซีเมนต์ กลับมารับผิดชอบซ่อมกำแพงบ้าน หลังขับชนกำแพงบ้านหายเป็นแถบตอนกลางดึกแล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปเบียดชนเข้ากับเสาไฟฟ้าจนหักและอีกหลายจุดตามเส้นทางที่หนี คาดหลงเส้นทางเข้ามาผิดแล้วไม่ยอมถอยกลับ

          เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 112 บ้านนาจาน หมู่ 2 ต.หนองแปน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยมี นายริน โพนเพ็ง อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมด้วย นายสายัญ สีดา อายุ 41 ปี เพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกัน พาผู้สื่อข่าวดูกำแพงหน้าบ้านตรงหัวมุมทางโค้ง ที่พังเสียหายยับเยินเป็นแนวยาวประมาณ 6 เมตร พร้อมทั้งมีเศษซากที่คลอบไฟของรถที่มาชน โดยนายสายัญ ที่เห็นรถตอนชนบอกว่าเป็นรถเทรลเลอร์บรรทุกปูนซีเมนต์คันยาว มาชนกำแพงเสียงดัง แล้วรถดับ สักพักก็สตาร์ทแล้วขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกมาดูแต่ไม่มีใครอยู่บ้าน กระทั่งเจ้าของบ้านกลับมาก็เป็นสภาพอย่างที่เห็น

          ด้าน นายริน เจ้าของบ้านกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงประมาณ 02.00 น. วันที่ 2 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ขณะนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน พากันขับรถออกมาซื้อของที่ตลาด มีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกว่ามีรถชนกำแพงบ้านตัวเอง ตนเองจึงรีบกลับไปดูก็พบสภาพที่พังเสียหาย เป็นแนวยาว 4 ช่องกำแพง ช่องละ 1.5 เมตร รวมประมาณ 6 เมตร ค่าเสียหายก็ร่วมแสนบาท หลังเกิดเหตุก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.มัญจาคีรี โดยทางร้อยเวรก็ได้ออกมาตรวจที่เกิดเหตุแล้ว และอยากจะฝากถึงเจ้าของรถคันดังกล่าวให้มารับผิดชอบซ่อมกำแพงให้กลับมาเป็นอย่างเดิม

          พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ต่อตามเส้นทางที่รถเทรลเลอร์บรรทุกปูนซีเมนต์ขับหลบหนีไป ซื่งห่างจากจุดแรกที่ชนประมาณ 2 กม. เป็นจุดที่รถเทรลเลอร์เบียดชนกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ตรงทางโค้งจนหักโค่นลงมา โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะมาเปลี่ยนเสาอันใหม่ให้ โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการพูดตรงกันว่าเป็นรถเทรลเลอร์บรรทุกปูนซีเมนต์ ขับมาตามถนนประมาณตี 2 พอถึงตรงนี้ได้ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมาแล้วไม่จอดขับหลบหนีไปต่อ คาดว่าจะหลงทางเข้ามา อาจจะดู GPS แล้วขับมาโดยที่ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้เป็นชุมชน ทางแคบ และไม่เคยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ขนาดนี้วิ่งผ่านมาก่อน คันนี้เป็นคันแรก

          นอกจากนี้ตามเส้นทางที่รถคันนี้วิ่งหลบหนีไปนั้นยังได้สร้างความเสียหายให้กับทุกๆช่วงการโค้งที่จะต้องเบียดด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้รถสามารถเลี้ยวผ่านไปได้ เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่ และยาว แต่เส้นทางเป็นถนนในชุมชนทางแคบรถแทบจะวิ่งสวนกันไม่ได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวหาเจ้าของรถมารับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง