หนุ่ม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เมายาบ้าอาละวาดทำลายข้าวของบ้านยายตัวเองจนพังเสียหาย เผาทีวี พัดลม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆจนวอด ยายต้องหาเงินมาจ้างไม่ให้อาละวาดทำร้ายร่างกาย ทุกวันต้องได้เสพยาบ้าหากวันไหนไม่ได้เสพยาบ้าจะโวยวายเดินทั่วหมู่บ้าน วอนหน่วยงานไหนก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเพราะตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือยายได้

        มีกรณีเพจเฟซบุ๊กโพสต์คลิปหนุ่มเมายาบ้าอาละวาดในหมู่บ้าน โดยระบุข้อความว่า “ทุกข์ชาวบ้าน ปัญหายาเสพติด ที่คนในชุมชนหวาดกลัว ปัญหาที่ยังไม่มีเจ้าภาพเข้าไปจัดการให้จบ วันหน้าจะมีการปาดคอไหม ถ้าปล่อยไว้โดยไม่มีการจับกุมบำบัดรักษา จนท.ตร.ในพื้นที่รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชาวบ้านด้วย พิกัด บ้านหนองไฮ ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ช่วยด้วยค่ะเด็กคนนี้คือขี้ยาในหมู่บ้านบ้านที่เกิดเหตุคือบ้านของดิฉันเองมีแค่แม่แก่กับลูกสาว ดิฉันทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯเป็นห่วงมาก วานคุณช่วยเป็นกระบอกเสียงจัดการให้ด้วยค่ะไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบต้องให้เป็นเรื่องร้ายเกิดขึ้นก่อน ตอนนี้เป็นห่วงแม่กับลูกสาวมากค่ะช่วยด้วยค่ะผู้ใหญ่บ้านไม่สนใจตำรวจก็ไม่เคยออกมาตามคำแจ้ง พ่อแม่ญาติมันก็ไม่เคยสนใจ”

        ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 123 ม.12 ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุโดยได้พบกับ นางบุญตา จันทะพร อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านและเป็นยายแท้ๆของชายในคลิปที่อาละวาด คือ นายอิสรา สีจอมพล อายุ 27 ปี พาผู้สื่อข่าวเดินดูความเสียหายในบริเวณบ้าน และร่องรอยการเผาโทรทัศน์และที่นอนอยู่บริเวณหน้าห้องที่นายอิสรา มาพักเป็นประจำ ซึ่งนายอิสรานั้นจะมีบ้านของพ่อแม่ซึ่งอยู่ติดกับบ้านยายบริเวณด้านหลังบ้าน จึงไปๆมาๆระหว่างสองบ้านนี้ตลอดทุกวัน และขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่นั้น นายอิสราอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ส่งเสียงร้องโหยหวนเป็นพักๆ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ออกมาให้ข้อมูลและอยากจะขอวิงวอนผ่านสื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้หน่อย เพราะทุกคนกังวลและหวาดกลัวนายอิสรา ซึ่งมักจะอาละวาดหากได้เสพยาบ้าและมักถือมีดถือเสียม กลัวว่าหากคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและอาจเสียชีวิตได้

        จากการตรวจสอบพบว่า สภาพความเสียหายมีหลายจุด เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งทีวีพัดลมที่เคยมีก็ถูกนายอิสราทำลายและเผาทิ้งหลายตัว โดยล่าสุดเมื่อช่วงประมาณ ตี 1 – ตี 3 วันที่ 7-8 ต.ค.64 นายอิสราได้เผาทีวีและที่นอนตัวเอง โดยดึงออกมาจากห้องแล้วมาเผา ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดผู้ใหญ่บ้านและตำรวจได้ลงพื้นที่เอาตัวนายอิสราไปแล้ว แต่ก็ปล่อยออกมาโดยให้เหตุผลว่า ตรวจแล้วไม่ได้บ้าแต่เป็นอาการของผู้ติดยาเสพติด ทำให้ชาวบ้านติดใจการทำงานของตำรวจว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลยแล้วจะต้องให้ชาวบ้านทำยังไงต้องมีเหตุนองเลือดก่อนจึงจะเข้ามาแก้ปัญหาหรืออย่างไร

        นาง บุญตา ยายของนายอิสรา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า หลานชายคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยมีนิสัยแบบนี้พอได้เสพยาบ้าและติดอย่างหนักก็เริ่มเปลี่ยนไป อาละวาดโวยวาย หากวันไหนไม่ได้เสพยาบ้า ทำลายข้าวของ ทุบตีตนเอง ด่าทอสารพัด จนตนเองไม่รู้จะแก้ไขยังไงจนต้องจ่ายเงินจ้างให้นายอิสราไปซื้อยาบ้าเสพเพื่อไม่ให้คลุ้มคลั่ง และต้องอยู่อย่างนี้มานานหลายปีแล้ว แจ้งตำรวจไปหลายครั้ง ตำรวจก็มาเอาตัวไปโดยตนเองต้องหาเงินจ่ายเป็นค่าน้ำมันให้ครั้งละ 1,500-1,800 บาท เพื่อนำตัวหลานไปคุมขังสงบสติอารมณ์ที่โรงพักแล้วก็ต้องปล่อยกลับมาอีกเพราะตำรวจบอกว่า นายอิสราไม่ใช่ผู้ป่วยทางจิตเวช แต่เกิดจากการติดยาเสพติด จึงต้องส่งตัวกลับบ้าน ตอนนี้อยากให้หน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน วิธีเดียวที่จะอยู่กันอย่างปลอดภัยได้คือนายอิสราจะต้องตายวิธีเดียวเท่านั้น ซึ่งตนเองแม้จะเป็นยายแท้ๆแต่ตอนนี้ก็ทนไม่ไหว มีครั้งหนึ่งที่ขึ้นโรงพักไปแจ้งความแต่ตำรวจทำอะไรไม่ได้ จนตนเองบอกตำรวจว่า เซ็นต์ใบตายไว้รอเลยได้ไหม

        ขณะที่นาย ชาติชาย ผาสุตะ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโพธิ์ทอง หมู่ 12 ต.โพนเพ็ก อ.ทัญจาคีรี จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหามานาน ตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจ เฝ้าระวังและประสานงานกับตำรวจมาตลอด ล่าสุดก็เกิดเหตุขึ้น จึงได้ไปตรวจสอบและประสานตำรวจมาควบคุมตัวคนก่อเหตุไป แต่เอาไปได้เพียงวันเดียวก็ปล่อยตัวมาเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เหตุผลว่าไม่ใช่ผู้ป่วยจึงไม่สามารถนำตัวไปบำบัดได้ แต่เป็นอาการของคนติดยาเสพติด จึงทำได้เพียงเฝ้าระวัง อีกทั้งนายอิสรานั้นจะก่อเหตุเฉพาะที่บ้านตัวเองและบ้านยายจะไม่ไประรานผู้อื่น แต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยจึงต้องเฝ้าระวังรอจนกว่าจะหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้