ชาวอำเภอพลวอนตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายลอบวางเพลิงศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย พร้อมทำพิธีเพื่อขอขมา สร้างกำลังใจให้กับชาวเมืองพลที่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบางคนถึงขั้นร้องไห้หน้าศาลเจ้าฯ ขณะที่ชาวบ้านถ่ายคลิปเหตุการณ์ตามความเชื่อว่าปู่เข้าร่างอยากชมตลาด สิ่งที่เกิดขึ้นรับเคราะห์แทนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ ด้านคดีตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานล่าตัวคนร้าย

นี่เป็นคลิปที่ชาวบ้านถ่ายด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ เป็นเหตุการณ์คล้ายกับคนถูกผีเข้าภายในศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งในคลิปชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพ่อปู่ละเลิงหวาย มาเข้าร่างชาวบ้าน และมีชาวบ้านอีกส่วนช่วยกันดูแลและบอกว่าลูกหลานมากราบมาขอให้ปู่ได้เที่ยวรอบเมือง ให้ได้เห็นความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ชาวอ.พล ที่มีความศรัทธาเจ้าพ่อละเลิงหวาย

ขณะที่อีกคลิปเป็นเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันโดยหญิงที่มีลักษณะคล้ายถูกสิ่งลี้ลับเข้าตัวนั่งร้องไห้พูดอะไรบางอย่างซึ่งฟังไม่ถนัดโดยชาวบ้านได้เข้ามาช่วยดูแลก่อนที่จะมีเสียงพูดขึ้นมาจับใจความได้ว่า

ตอนนี้มีวิบากกรรมใหญ่หลวงนักต้องดูแลกันให้ดีๆ ก่อนที่จะร้องไห้สักพักและเป็นลมสลบไป จนชาวบ้านต้องหายาดมและพัดมาระบายอากาศให้ถ่ายเท ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์บันทึกเอาไว้ก่อนที่จะเริ่มพิธีตามความเชื่อชาวจีน ขอขมาและถามถึงความต้องการของเจ้าพ่อหรือสิ่งที่ชาวอ.พลทำให้ไม่พอใจจะได้ช่วยกันแก้ไขให้อยู่กันอย่างมีความสุข

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.2564 ที่ศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ห่างจาก สภ.พล จ.ขอนแก่น 300 เมตร นายประโยชน์ เรืองสุขอุดม นายพรศักดิ์ บูรณบัญญัติ ประธานกรรมการศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย พร้อมด้วยคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อฯและประชาชนชาว อ.พล จ.ขอนแก่น ร่วมพิธีกรรมตามความเชื้อของชาวจีน พร้อมอัญเชิญเทพเจ้าจากจ.นครราชสีมา มาประทับที่ศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ขอขมาเจ้าพ่อและถามผ่านคนทรงหากมีสิ่งใดที่ชาวเมืองพลทำให้ปู่ไม่พอใจจนเกิดเหตุการณ์ก็ขอให้บอกกับชาว อ.พล เพื่อนำไปแก้ไขเพื่อความสบายใจของชาว อ.พล เนื่องจากเกิดเหตุการณ์มีคนร้ายลอบวางเพลิงศาลเจ้าพ่อละเลิงหวายเมื่อเช้ามืดวันที่ 15 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา และยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานแกะรอยติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิง ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

โดยบรรยากาศทันทีที่คณะของมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา อัญเชิญเทพเจ้ามาประดิษฐานภายในศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ก็ได้เริ่มพิธีกราบไหว้เจ้าและขอขมาทันที โดยมีคณะกรรมศาลเจ้าพ่อฯและประชาชนชาว อ.พล มาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเริ่มการทำพิธีถามผ่านคนทรงหากมีสิ่งใดที่ชาวเมืองพลทำให้ปู่ไม่พอใจจนเกิดเหตุการณ์ก็ขอให้บอกกับชาว อ.พล โดยคนทรงได้พูดออกมาเป็นภาษาจีนซึ่งจะมีการแปลในวันที่ทำพิธีดับเพลิงธาตุซึ่งจะเป็นพิธีตามความเชื่อคนไทย หรือที่เรียกกันว่าการถอดสูตร ตามความเชื่อที่ว่าหากบ้านใดเกิดไฟไหม้ก็จะนิมนต์พระหรือเชิญพราหมณ์มาทำพิธีถอดเอาสิ่งไม่ดีออกจากบ้านไป โดยจะเริ่มทำพิธีเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.2564นี้

นางสุภลักษณ์ พันแน่น อายุ 58 ปี ประธานตลาดสดเทศบาลเมืองเมืองพล ซึ่งเป็นคนที่ถ่ายคลิปชาวบ้านมีอาการคล้ายผีสิง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ชาวอ.พลทุกคนต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใครไปทำอะไรให้โกรธแค้นถึงขนาดต้องวางเพลิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวอ.พล มากว่า 200 ปี ตนเองพอทราบเรื่องก็มาดูและนำผลไม้มาไหว้ เพื่อขอให้จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งมาไหว้เพื่อบอกเจ้าพ่อว่าลูกหลานชาวอ.พลทุกคนต่างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากจะขอเชิญพ่อปู่ไปดูชาวบ้านในตลาด เพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าได้กลับมาอีกครั้ง จึงได้มาพูดคุยกับทางประธานศาลเจ้าพ่อฯ ถึงจุดประสงค์ ซึ่งทั้งนี้ก็แล้วแต่ทางศาลเจ้าพ่อจะเห็นสมควร เพราะตนเองได้นำสิ่งที่พ่อปู่ต้องการมาบอกแล้ว ในส่วนของทางด้านคดีก็อยากจะให้ตำรวจตามจับตัวมาลงโทษโดยเร็ว อยากจะสาปแช่งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุขอให้กฎแห่งกรรมเล่นงานและกฎหมายลงโทษสถานหนัก

ด้าน นายประโยชน์ เรืองสุขอุดร ประธานกรรมการศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การทำพิธีในวันนี้จะทำทั้งพิธีตามความเชื่อของชาวจีนและตามความเชื่อของชาวไทย โดยได้อัญเชิญเทพเจ้าที่พวกเราศรัทธาที่อยู่ จ.นครราชสีมา เพื่อถามปู่ผ่านร่างทรงว่ามีสิ่งใด่ที่ชาวอ.พล ทำไม่ดีไม่ถูกต้องอยากจะให้ปู่บอกกล่าวเพื่อนำไปแก้ไข และเพื่อเป็นการขอขมา รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาว อ.พล ทุกคน เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็มีสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย ชาวบ้านบางคนที่มาไหว้ก็มีอาการคล้ายผีเข้าซึ่งเชื่อว่าเป็นปู่ละเลิงหวาย บางคนนั่งร้องไห้ ทางศาลเจ้าพ่อฯเองและชาวบ้านเองต่างต้องการอยากให้ขวัญกำลังใจของชาวบ้านทุกคนดีขึ้นจึงได้ทำพิธีตามความเชื่อขึ้นทั้งแบบจีนและแบบไทยขึ้นมา