งานเทศกาลไหมนานาชาติฯ เลื่อนการจัดงานไปไม่มีกำหนดเหลือเพียงการออกสลากรางวัลกาชาดแบบออนไลน์เท่านั้น ขณะที่ขอนแก่นเปิด 10 สายด่วนรับมือโอไมครอน ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาโดยทันที พร้อมสั่งห้ามข้าราชการในสังกัดเดินทางออกนอกพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า สำหรับการเลื่อนการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาดประจำปี 2565 ที่เดิมกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 ม.ค.-9 ก.พ. ซึ่งขณะนี้มีการเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้น ซึ่งคณะทำงานทุกฝ่ายนั้นรับทราบและดำเนินการในขั้นตอนต่างๆที่ได้กำหนดไว้แล้วในภาพรวม แต่ในการเลื่อนการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติออกไปนั้น จะยังคงไว้ซึ่งการประชุมระดับนานาชาติแบบออนไลน์ ของนักวิชาการด้านเส้นไหม และวิชาการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการออกสลากรางวัลกาชาด ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะดำเนินการภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยจัดให้มีการถ่ายทอดสดการออกสลากกาชาดในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ผู้สนใจติดตามได้

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ได้เปิดสายด่วน 10 เลขหมายสำหรับการติดต่อหน่วยปฐมภูมิในพื้นที่ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อควบคุมป้องกันโรคและการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม หลังพบว่าแนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หลังเทศกาลปีใหม่มีจำนวนที่มากขึ้น โดย 10 สายด่วนที่กำหนดจัดขึ้นนั้นจะเป็นการบริหารจัดการเตียง ในรูปแบบของการรับไว้รักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation และ แบบรับไว้รักษาในสถานที่รัฐจัดให้ในชุมชนหรือ Community Isolation ประกอบด้วยศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 1 เทศบาลนครขอนแก่น หมายเลข 043-424551,ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 3 โนนชัย 043-237661,ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 5 หนองใหญ่ 043-466293,ศูนย์แพทย์ประชาสโมสร 043-009900 ต่อ 4728,4729, ศูนย์แพทย์วัดหนองแวงพระอารามหลวง 043-227695, ศูนย์แพทย์ชาตะผดุง 043-225860, ศูนย์แพทย์มิตรภาพ 043-239538,หน่วยบริการปฐมภูมิสามเหลี่ยม 043-242101, หน่วยบริการปฐมภูมิ มข.043-203454, และหน่วยบริการปฐมภูมิ 123 ที่หมายเข 043-203455

ขณะที่การยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันในระดับพื้นที่ยังคงเน้นหนักและยึดหลักตามที่ ศบค.กำหนด และทางจังหวัดได้มีคำสั่งให้ข้าราชการในส่วนภูมิภาคนั้นห้ามออกเดินทางนอกเขตจังหวัดในระยะนี้อย่างเด็ดขาดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และหากจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางให้ชี้แจงเหตุผลและขออนุญาตเป็นรายกรณีไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง