ความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นชาย 19 ปีถูกอริยิงเข้าที่ใต้ราวนม หลังนัดเคลียร์ปัญหากันเนื่องจากมีปากเสียงกันในเฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 1 คน ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเป็ดตามรวบมือปืนที่หลบหนีได้แล้วอยู่ระหว่างการพาตัวไปหาปืนที่นำไปทิ้งไว้บนเทือกเขาภูเม็ง ขณะที่ญาติๆรอรับศพผู้ตามมาประกอบพิธีทางศาสนา
ความคืบหน้ากรณี นาย นพดล พันธ์ ชมพู อายุ 19 ปี ชาวบ้านดอนช้าง ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถูกอาวุธปืนลูกโม่ยิงเข้าที่ใต้ราวนมจนเสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนมะลิวรรณ หน้าโรงงานผลิตรองเท้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านทุ่ม ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วง 21.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังนัดเคลียร์ปัญหากับนายเบนซ์ ซึ่งมีการท้าทายกันในเฟซบุ๊กส่วนตัวจนเหตุการณ์บานปลาย นายเบนซ์ยกพวกมาอีก 4 รวมเป็นหาคน แล้วมีนายโอ้ ชักอาวุธปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาดยิงผู้ตายดังกล่าวแล้วหลบหนีไป ซึ่งต่อมาคืนเดียวกัน ทางตำรวจ สภ.บ้านเป็ด สามารถติดตามจับกุม 3 ใน 5 ผู้ร่วมก่อเหตุคือ นายกฤษฎา คำมา อายุ 23 ปี หรือนายม่อน นายปิยบุตร ศรีขำ อายุ 27 ปี หรือเบนซ์ (คู่อริคนตาย หัวโจกรวบรวมคนไป) และ นายอภิวัฒน์ สุคันธศรี อายุ 28 ปี หรือนาย บอม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวภายในห้องควบคุมของ สภ.บ้านเป็ด และทำการสอบปากคำเพิ่มเติม
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รอง ผกก.สืบสวนสภ.บ้านเป็ดว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 คน คือ นายอภิสิทธิ์ ชินบุตร อายุ 22 ปี หรือนายโอ้ คนยิงและเจ้าของรถ และนายขวัญ ทองพิมพา อายุ 27 ปี หรือ ออด ทางชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว โดยอยู่ระหว่างควบคุมตัวไปหาปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยเบื้องต้นทราบว่า นายโอ้นำไปทิ้งไว้บนเขาภูเม็ง ในพื้นที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน เบื้องต้นนั้น รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเพิ่งได้ตัวจะต้องรอการสอบสวนของตำรวจอีกครั้ง ในส่วนของข้อหานั้น เบื้องต้นเป็นข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้ตาย เลขที่ 262 บ้านดอนช้าง หมู่ 5 ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาช่วยกันจัดเตรียมงานศพ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้น แม่ของผู้ตายเดินทางไปรับศพลูกชาย ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งแม่ยังอยู่ในอาการเสียใจไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ นาย สุวัฒน์ ทองตะ อายุ 37 ปี น้าชายของผู้ตายบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรับไม่ได้ อยากให้คนก่อเหตุมาขอขมาศพหลานชาย ซึ่งหลานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือกินเหล้า เพิ่งทำงานที่โรงงานเข้าเดือนที่ 5 แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลง ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองและหลานชายรวมทั้งเพื่อนๆของหลานเตรียมจะทำเมนูไก่รับประทานอาหารหลังจากหลานเลิกงาน ซึ่งเป็นไก่ของหลานชายบอกให้ตนเองนำไปขุนไว้ให้อ้วนๆ แล้ววันจันทร์จะมากินด้วย แต่ผ่านไป 3 ทุ่ม พี่สาวของหลานที่ตายกลับมา และบอกว่าแฟรงค์ถูกยิงตาย ก็รีบพากันออกไปก็พบว่าน้องแฟรงค์เสียชีวิตแล้ว
ขณะที่ นางทิพย์ พันธ์ชมภู อายุ 77 ปี ยายของผู้ตายบอกว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างรักหลานชายคนนี้ หลานชายเป็นคนดีไม่ใช่พวกที่มีนิสัยอันธพาล ก็ขอปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายและกฎแห่งกรรมไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Leave a Response