ตำรวจเร่งสอบ “ปูแดง” หญิงที่ยายวัย77ปีอ้างมาหลอกพาไปตระเวนข้ามจังหวัดเซ็นชื่อซื้อมือถือวันเดียว 6 เครื่องพร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกง รอสอบปากคำเพิ่ม ส่วนมือถือที่ยายเซ็นชื่อซื้อล่องหนเตรียมลงพื้นที่หาต้นตอ คาดมีผู้ร่วมขบวนการอีก
จากกรณีที่ญาติของนางทองตัด สมณะ อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 7 ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ร้องสื่อหลังที่ยายอยู่บ้านคนเดียวถูกหญิงหมู่บ้านใกล้เคียงหลอกพาเดินทางข้ามจังหวัดเซ็นชื่อซื้อมือถือวันเดียว 6 เครื่องมูลค่ากว่าแสนบาท จนยายทองตัดรู้ว่าถูกหลอกตัดสินใจผูกคอตาย แต่โชคดีหลายเขยมาเห็นก่อนจึงช่วยไว้ทัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ซำสูง เรียกนางทองตัดฯ พร้อมลูกสาวนางอรทัย ยืนยาว มาสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อไปถึงที่สถานีตำรวจภูธรซำสูงก็ได้พบกับนางรุ่งนภา หรือปูแดง ไขกันหา ชาวบ้านนายม ต.บ้านโนน ผู้ต้องหาที่ยายทองตัดระบุว่าชักชวนไปทำธุรกรรมเซ็นชื่อซื้อโทรศัพท์มือถือที่จังวัดอุดรธานี ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนางรุ่งนภาฯ เรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางรุ่งนภาฯ ได้รับการปฏิเสธว่าไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใด ๆ
ขณะที่ พ.ต.ท.ชำนาญวิทย์ เทพอาจ รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรซำสูง เปิดเผยว่า หลังจากที่สอบปากคำทั้งสองฝ่ายได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงกับนางรุ่งนภาฯ ส่วนผู้ร่วมขบวนการคนอื่นในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีจำนวนกี่คน โดยนางรุ่งนภาฯ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้หลอกลวง ยายทองตัดฯยินยอมไปลงชื่อซื้อโทรศัพท์เอง ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นนางรุ่งนภาฯ ไม่ได้บอกว่าอยู่กับใคร จะให้การชั้นศาลเพียงอย่างเดียว ไม่ให้ข้อมูลใด ๆ ซึ่งจากการสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่านางรุ่งนภาฯ ได้หลอกผู้เสียหายไป 2 คน โดยจะทำการสืบสวนต่อไปว่ามีผู้ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจากคนกลุ่มนี้อีกหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าจะมีอยู่ประมาณ 5-6 คน โดยน่าจะทำเป็นขบวนการ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้อีก สำหรับนางปูแดงหรือรุ่งนภาตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาโดยไม่ได้ควบคุมตัวเนื่องจากผู้ต้องหามาพบตามหมายเรียก
พร้อมกันนี้ที่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 7 ตำบลบ้านโนน อำเภอชำสูง บ้านของยายทองตัดฯ มีชาวบ้านเดินทางมาให้กำลังใจไม่ขาดสาย ซึ่งยายทองตัดฯ ก็รับปากกับลูกหลานว่าจะไม่คิดสั้นอีก นอกจากนี้นายพงศกรณ์ เสาร์ทน คณะทำงานนายประภัทร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ครอบครัวยายทองตัดเป็นการปลอบขวัญและรับปากว่าจะจัดสรรที่ดินสาธารณะให้ครอบครัวได้ทำกินเนื่องจากยายทองตัดมีฐานะยากจน ลูกหลานมีอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง
ด้านนายอุดม พลพันธ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 7 ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายอีก หนึ่งคน เล่าว่า ตนเป็นผู้ที่ถูกนางรุ่งนภาฯ ชักชวนให้เดินทางไปซื้อโทรศัพท์มือถือและเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีด้วยกัน ได้ลงลายมือชื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อ เพราะนางรุ่งนภาฯ บอกให้เซ็นชื่ออย่างเดียว ที่ตัดสินใจไปนั้นเพราะนางรุ่งนภาฯ บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเพราะคนในหมู่บ้านทำกันหลายคนแล้ว รวมถึงญาติของตนด้วย จึงคิดว่าคงไม่มีอะไร หลังเซ็นชื่อนางรุ่งนภาได้ให้เงินค่าจ้างจำนวน 1,000 บาทตามตกลง ขณะนี้ยังไม่ได้ไปแจ้งความเนื่องจากตนไม่มีหลักฐานจากผู้ให้บริการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ เพียงแต่ได้รับเชิญให้ไปสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น ส่วนตัวคาดว่าน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ และน่าจะมีประชาชนถูกหลอกจากขบวนการนี้จำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Leave a Response