เจ้าของบ้านวอนตำรวจสภ.มัญจาคีรี เร่งจับโจรงัดบ้านสองหลังติดกลางวันแสกๆ ได้ทรัพย์สินเป็นทองและเงินสดรวมกว่า 130,000 บาท ต้องอยู่อย่างผวารู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 75 ม.11 บ้านหนองขามบ่อหิน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นบ้านของนางสาวเฉลา หรือบอลลี่ ก้านอินทร์ อายุ 35 ปี ซึ่งโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัวว่าเนื่องจากตัวเองโดนโจรงัดบ้านเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 หมู่บ้านหนองขามบ่อหิน ตำบลกุดเค้า อ.มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ได้ทองไปมีลายดังที่เห็นในภาพมีจี้รูปตัวN และอีก2เส้นจำลายไม่ได้ ถ้าใครเห็นหรือมีเบาะแสของผู้น่าสงสัยแจ้งได้ หรือเขาจะเอาไปจำหน่าย สิ่งที่ทำอยากได้ของคืนเพราะคือของสะสมมีคุณค่าทางจิตใจมาก #และที่สำคัญอยากจับคนร้ายได้เนื่องจากไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใคร เพราะโจรใจเย็นมากขึ้นพร้อมกันสองหลัง ทำให้ทุกคนเกิดความกลัวอยู่ลำบาก ดั้งนั้นฝากแชร์ด้วยค่ะเพื่อเป็นกระบอกเสียงต่อๆกันไป #เตือนภัยสังคมทุกวันนี้อยู่ลำบากค่ะ พร้อมทั้งลงภาพนิ่งทองรูปพรรณที่หายไปไว้ด้วย
ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถึงที่บ้านนางสาวเฉลา พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยที่ประตูหลังบ้าน ซึ่งถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดบานประตูจนกลอนประตูพัง แล้วคนร้ายก็เข้าไปรื้อค้นเอาทองรูปพรรณภายในห้องนอน ที่ปิดประตู แต่ไม่ได้ล็อค
นางสาวเฉลา กล่าวว่า ตนทำงานเป็นเอ็มซีสินค้า ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ที่บ้านมีรถไถนาสองคัน มีสามีดูแลและรับจ้างไถนา ไถสวนทุกวัน ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนออกไปทำงานที่ห้างสรรสินค้าในอำเภอบ้านไผ่ สามีออกไปไถสวน แต่สามียังคงเข้าออกบ้าน เพื่อสับเปลี่ยนรถไถ เมื่อเลิกงานตอนเย็นกลับถึงบ้านจึงทราบเรื่องจากสามีว่ามีโจรงัดเข้าบ้าน ขโมยเอาทองรูปพรรณที่เก็บไว้ในลิ้นชักเตียงนอนไป เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 สลึง จำนวน 2 เส้น และเงินสดอีก 2,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 70,000 บาท
หลังเกิดเหตุจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มัญจาคีรี เพื่อให้มาตรวจที่เกิดเหตุและสืบสวนจับกุมโรครายดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะโอกาสที่จะได้ทองกับเงินคืนมานั้น คงไม่มีแล้ว
ในเวลาต่อมาก็มี นางสาว พฤษฏากร แต้มสี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่บ้านเดียวกันและมีบ้านอยู่ติดกับผู้เสียหายรายแรก พาผู้สื่อข่าวเข้าไปที่บ้าน พร้อมกับร้องเรียนว่า ในวันเดียวกันกับที่เกิดเหตุที่บ้านของนางสาวเฉลา นั้น เชื่อว่าโจรรายเดียวกัน ได้มาก่อเหตุมที่บ้านตนอีก
นางสาว พฤษฏากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนกับมารดา ออกไปดูการไถไร่อ้อย ตอนเย็นกลับเข้าบ้าน ก็เห็นประตูหลังบ้านเปิดทิ้งไว้ จึงรีบไปดูที่ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งจุดที่เก็บสร้อยคอทองรูปพรรณ ปรากฏว่าถูกงัดและทองก็หายไปทั้งหมดเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง จำนวน 1 เส้น รวมมูลค่าประมาณ 60,000บาท หายไป จึงได้แจ้งตำรวจสภ.มัญจาคีรีมาตรวจที่เกิดเหตุ ก็พบรอยเท้าของคนร้าย เดินมาจากข้างรั้วบ้านฝั่งที่ติดกับบ้านของผู้เสียหายรายแรก เป็นรอยเท้าข้างขวาที่สวมรองเท้าผ้าใบข้างเดียว มีรอยเดินไปถึงบริเวณหน้าต่าง และมีรอยเดินออกที่ประตูหลังบ้าน จึงเชื่อว่าโจรที่มาลงมือในบ้านตนเองนั้น น่าจะเป็นโจรรายเดียวกับกับที่ลงมืองัดบ้านของนางสาวเฉลา และเชื่อว่าน่าจะมากัน 2 คน คือคนลงมือและคนดูต้นทาง จึงอยากให้ตำรวจเร่งทำการสืบสวนและจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
Leave a Response