ทน.ขอนแก่น หนุนชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรไทย ตามศาสตร์แพทย์แผนไทยแบบครบวงจร นำร่องชุมชนหลังศูนย์ราชการ ด้วย 4 ผลิตภัณฑ์เด่นที่ใครๆก็ทำได้
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 26 มี.ค.2565 ที่อาคารอเนกประสงค์ชุมชนหลังศูนย์ราชการ 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น หรือทน. เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการใช้และการผลิตสมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพในครัวเรือน ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่น โดยกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีวิทยาการจากคณะแพทย์แผนไทย ศูนย์แพทย์มิตรภาพ รพ.ขอนแก่น ร่วมทำการฝึกอบรม และมีชาวชุมชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับการฝึกอบรมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ในปีงบประมาณ2565 ชุมชนในเขตเทศบาลทั้ง 95 แห่ง ได้เสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ทน.ขอนแก่น รวม 453 ชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้เข้าสู่แผนการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ซึ่งเทศบาลได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินงานในไตรมาสแรกจำนวนทั้งสิ้น 5 ล้านบาท โดยการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมการใช้และการผลิตสมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพในครัวเรือนชองชุมชนหลังศูนย์ราชการ 1 วันนี้เป็น 1 โครงการที่เทศบาลฯได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินงานไตรมาสแรก ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายของเทศบาลฯและชาวชุมชนอย่างมาก เนื่องจากสมุนไพรไทยนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทย ที่ขณะนี้เป็นพระเอก หรือ 1 ในกำลังหลักที่สำคัญของวงการแพทย์ในการรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะเห็นได้ว่าแทบทุกหลังคาเรือน มีสมุนไพรไทยปลูกไว้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ขิง,ข่า,ตระไคร้,ใบมะกรูด,กะเพราะแดง โดยเฉพาะฟ้าทลายโจรที่มีปลูกไว้กันแทบทุกบ้านจากภาวะเหตุการณ์และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนั้นวันนี้คณะทำงานด้านแพทย์แผนไทย จากศูนย์แพทย์มิตรภาพ รพ.ขอนแก่น ร่วมกับคณะทำงานของเทศบาลฯจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากกองทุนประกันสุขภาพ ที่ได้จัดการอบรมให้กับชุมชนได้เรียนรู้ถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย การปลูกและการดูแลรักษาสมุนไพรไทยใกล้ตัวที่ถูกวิธีและถูกหลักวิชาการและที่สำคัญคือการต่อยอดสมุนไพรไทยเข้าสู่กระบวนการแปรรูปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรไทยอีกด้วย
“ชาวชุมชนให้ความสนใจในศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยอย่างมากโดยเฉพาะชุมชนหลังศูนย์ราชการ 1 ที่วันนี้ได้ข้อสรุปในการที่จะแปรรูปสมุนไพรไทยใกล้ตัวออกเป็น 4 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย พิมเสนน้ำ มีสรรพคุณ สูดดม บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และแก้วิงเวียน โดยมีส่วนประกอบจากพิมเสน,การบูร,เมนทอล และน้ำมันยูคาลิปตัส ตามด้วยยาหม่อง ที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดเมื่อย และบรรเทาอาการจากแมลง สัตว์ กัดต่อย
โดยมีส่วนประกอบแยกเป็นพาราฟิน,วาสลีน,เมนทอล,น้ำมันสะระแหน่,การบูร,น้ำมันระกำ,น้ำมันอบเชย,น้ำมันกานพลูและน้ำมันเขียว นอกจากนี้ยังคงมียาดมสมุนไพร ที่เป็นการนำสมุนไพรแห้งที่มีกลิ่นหอมเย็น สดชื่น ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นลูกจันทน์,ดอกจันทน์,กานพลู มาผสมกันแล้วหมักด้วยน้ำมันหอมระเหย ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจะเป็นตัวสกัดสารสำคัญ และกลิ่นหอมของสมุนไพรออกมาก และสุดท้ายคือมหาพิกัดตรีผลา ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ที่มีส่วนผสมจากมะขามป้อม,สมอพิเภกและสมอไทย รวมทั้งน้ำผึ้งและเกลือโดยทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์ของชุมชนแห่งนี้นั้น คณะทำงานได้จัดกระบวนการเรียนการสอน และร่วมกันลงมือทำโดยเริ่มต้นจากใช้ในครัวเรือนและใช้ในชุมชน”
นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า กระบวนการการผลิต ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ จนไปถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์นั้น ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากกลุ่มงานแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก รพ.ขอนแก่น โดยศูนย์แพทย์มิตรภาพ ที่อยู่ใกล้ชิดกับชุมชนแห่งนี้ ได้มาแนะนำและร่วมกันลงมือทำจนได้ผลผลิตที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวเป็นแผนงานที่สำคัญ ซึ่งเทศบาลฯโดยคณะทำงานร่วมกันทุกฝ่ายจะยังคงเน้นหนักกระบวนการการมีส่วนร่วม และให้ชุมชนได้เสนอแผนโครงการ โดยมีเทศบาลฯให้การสนับสนุนและทำร่วมกันอ่างครบถ้วน อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝึกอบรมครั้งนี้หากชุมชนต้องการจะก้าวสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไปสู่ด้านการค้า เทศบาลฯก็พร้อมที่จะสนับสนุนด้วยแผนงานและงบประมาณตามระเบียบที่กำหนดไว้ในภาพรวมอีกด้วย
Leave a Response