เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 เม.ย.2565 ที่สนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น “จงอางผยอง” สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021/22 โดยอนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมส์การแข่งขันได้ 75% ของความจุสนามหรือประมาณ 4,800 คน ท่ามกลางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยนัดนี้ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หวังเก็บ 3 คะแนนให้ได้เพื่อรั้งอันดับ 1 ของตารางและคว้าแชมป์ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก มาครองให้ได้ ขณะที่เจ้าบ้าน จงอางผยอง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ต้องการ 3 คะแนนเช่นกันเพื่อทำอันดับหนีห่างโซนตกชั้น ให้ได้อย่างสบายใจ

ซึ่งเจ้าบ้าน จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงต่อกร นำโดยกองหน้าตัวเก่ง อิบสัน เมโล่ กัปตันทีม ,จักรกริช พาละพล,โรมูโล่ คาบาว,โจชัว กอมเมนและจิรวัฒน์ วังกะพันธ์ ขณะที่ทีมเยือนจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดยนฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม กัปตันทีม, ธีราทร บุญมาทัน, ศุภชัย ใจเด็ด และสุภโชค สารชาติ โดยมีนายชัยฤกษ์ งามสม รับหน้าที่ผู้ตัดสินที่ 1

เริ่มเกมส์เป็นเจ้าบ้านเปิดเกมส์เข้าใส่ แต่ก็ไม่ผ่านแผงหลัง ทีมเยือนไปได้ พร้อมกับฉวยจังหวะสวนกลับ ได้ก็ไม่ผ่านมือจิรวัฒน์ วังกะพันธ์ ผู้รักษาประตูเช่นกัน จนกระมั่งมาถึงนาทีที่ 20 เป็นจังหวะที่ศุภชัย ใจเด็ด ปะทะ กับจิรวัฒน์ วังกะพันธ์ ในจังหวะเข้าทำประตู แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ศุภชัย ไม่สามารถเล่นต่อได้ ทีมเยือนจึงตัดสินใจส่ง เอยุฟ มาซิก้า ลงเล่นแทน

เกมส์เริ่มสนุกต่อเนื่องต่างฝ่าย ผลัดกันรุกและรับแบบได้ลุ้น นาทีที่ 22 ศศลักษณ์ อาศัยจังหวะความเร็ว และกระชากบอลตัดเขากลางก่อนยิงเข้าประตูไป แต่มีผู้เล่นของบุรีรัมย์ ยืนล้ำหน้าอยู่ แม้กรรมการวีเออาร์ จะส่งสัญญาณให้ตรวจสอบแต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ตัดสินไม่ให้ประตู

จนกระทั่งถึงนาทีที่ 40 เกมส์เริ่มเดือด เมื่อ โบลิงกี้ ใช้ศีรษะโขกเข้าใส่ผู้เล่นของขอนแก่น ยูไนเต็ด กรรมการวีเออาร์ ส่งสัญญาญให้มีการตรวจสอบเนื่องจากเป็นการปะทะนอกเกมส์ ก่อนที่ผู้ตัดสิน ควักใบแดงไล่โบลิงกี้ ออกจากสนาม ทำให้บุรีรัมยเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก
จากนั้นต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกด้วย สกอร์ 0-0

เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือน แม้จะเหลือผู้เล่น 10 คน ก็ยังคงเปิดเกมส์บุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าบ้านเริ่มปรับเกมส์ เพื่อหวังประตูเช่นกัน โดยมีจังหวะได้ลุ้นหลายครั้ง แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมส์ เสมอกันไป 0-0 แบ่งกันคนละ 1 คะแนน และนัดต่อไป ขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในวันที่ 9 เม.ย.ที่ สนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น