ตร.ขอนแก่น รวบลูกทรพีตีแม่จนต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัดเผาบ้านตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตำรวจขอนแก่น รวบหนุ่มใหญ่ หลังเมายาเผาบ้านตัวเอง ขณะแอบกลับมาที่บ้าน ด้านญาติเผยก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบนำตัวไปบำบัดรักษาให้เป็นปกติก่อนปล่อยตัวออกมา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 เม.ย. 2565 พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล อ.พล จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.สลาวุฒิ จันทศิลา รองผกก.(ป.)สภ.พล กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายมนตรี หรือมุ่ย แสนง่า อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/5 ชุมชนตลาดเก่า (หลังสวนสระจันทร์) เขตเทศบาลเมือง เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น หลังก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปในบ้านที่เป็นซากปรักหักพัง โดยพบนายมนตรีนอนหลับอยู่ในห้องนอนที่ถูกไฟเผาวอด โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปลุกให้ตื่นและใช้ไม้ง่ามค้ำร่างเอาไว้ ก่อนจะควบคุมตัวมาที่ สภ.พล เจ้าเพื่อทำการสอบสวนและตรวจหาสารเสพติด ซึ่งในเบื้องต้นพบเป็นสีม่วง จึงส่งไปตรวจที่รพ.พล ให้ได้ผลที่ชัดเจน

โดยนายมนตรี ให้การว่า ไม่ได้เสพยาบ้า ไม่ได้เมาสุรา แต่ที่เผาบ้าน เพราะมีแมลงเข้ามาในบ้านจำนวนมาก แมลงไต่เข้าในห้องนอน ต้องการฆ่าแมลง จึงต้องจุดไฟเผาบ้าน เพื่อไล่ให้แมลงออกจากบ้านไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุที่เกี่ยวกับนายมนตรี บ่อยครั้ง ทั้งเรื่องเมายาเสพติด และเรื่องก่อไฟในบ้าน ซึ่งเมื่อไปควบคุมตัวมาก็จะมาควบคุมตัวไว้ที่สภ.พล ให้สงบสติอารมณ์ จากนั้นก็จะปล่อยตัวกลับบ้าน โดยจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางจิตเวชที่ต้องเฝ้าระวังตามโครงการนาคาพิทักษ์

พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล

” ในการก่อเหตุครั้งนี้ทราบว่า นายมนตรีนั้นอยู่บ้านคนเดียว บิดาเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนมารดาถูกนายมุ่ยทำร้ายร่างกายจนอยู่ด้วยไม่ได้ ได้ย้ายไปอยู่กับลูกสาวที่ต่างจังหวัด ในการก่อเหตุครั้งนี้ จึงเป็นการวางเพลิงเผาทรัพย์ตัวเอง ที่ไม่ได้ลุกลาม สร้างความเสียหายให้บ้านอื่น และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานไปยังมารดาของคนก่อเหตุ ว่าจะมาแจ้งความเอาผิดและดำเนินคดีกับลูกชายหรือไม่ หากมารดา เดินทางมาแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งข้อหาและดำเนินคดีในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ แต่ถ้ามารดาไม่มาแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีในข้อหาใดได้ เพราะที่ลงมือเผาไปนั้น เป็นทรัพย์สินในบ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ ส่วนสารเสพติดในร่างกาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอผลการตรวจจากแพทย์ยืนยัน ว่ามีสารเสพติดหรือไม่ ถ้ามีก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ”

ด้าน น.ส. ปาริฉัตร พุทโธวาส อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ชุมชนเดียวกัน และมีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า นายมนตรีมีการก่อเหตุมาหลายครั้ง แจ้งตำรวจก็ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ เมื่อคุมตัวไป ประมาณ 24 ชม.ก็ปล่อยตัวกลับมาอีก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีกับคนที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน เพราะ ทุกครั้งที่ถูกปล่อยตัวมา นายมุ่ยก็จะก่อเหตุซ้ำ และยังทำร้ายร่างกายมารดา จนมารดาต้องหนีไปอยู่ที่จังหวัดลำปาง ในครั้งนี้ก่อเหตุเผาบ้านเกือบวอดทั้งหลัง คนมีบ้านอยู่ใกล้กันก็เดือดร้อน จึงอยากให้ตำรวจเอาตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง