มวลชนกลุ่มราษฎรขอนแก่นนำถังบรรจุน้ำ พร้อมขันและปืนฉีดน้ำจัดกิจกรรมรดนำประชาธิปไตยให้เบ่งบาน สาดน้ำสงกรานต์แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าสังเกตการณ์รักษาความสงบ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 เม.ย.2565 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มมวลชนราษฎรขอนแก่น พร้อมใจกันจัดกิจกรรม “ปีใหม่ไทย ประชาธิปไตยเบ่งบาน” นำโดยนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ขอนแก่นพอกันที นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ ทะลุฟ้า นำมวลชนร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยกลุ่มมวลชนได้นำถังน้ำพร้อมขันน้ำและปืนฉีดน้ำมาร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยได้มีการสาดน้ำสงกรานต์ในรถของประชาชนที่สัญจรผ่านรอบๆอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมทั้งการเล่นคลื่นมนุษย์ชูสามนิ้ว จำนวน 3 รอบหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและรดน้ำเพื่อเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ให้ประชาธิปไตยเกิดความเบ่งบานหลักจากที่ทุกคนอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการเข้าสู่ปีที่ 8 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ทั้งในและนอกเครื่องแบบ พร้อมด้วยเจ้าหนเที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองขอนแก่น เข้าพูดคุยกับทางกลุ่มมวลชนให้งดกิจกรรมการละเล่นสาดน้ำสงกรานต์ใส่ประชาชนเนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค.และเข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งเพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบเรื่องการสาดน้ำสงกรานต์ที่ทางกลุ่มมวลชนเล่นสาดน้ำได้แต่ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเล่นได้ ซึ่งทางกลุ่มมวลชนได้รับทราบแต่ยังคงจัดกิจกรรมออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์รักษาความสงบอยู่รอบๆบริเวณ
โดยในกิจกรรมดังกล่าวนั้นนอกจากการละเล่นสาดน้ำสงกรานต์ การรดน้ำอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบานแล้ว ทางกลุ่มมวลชนยังได้ทำหุ่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหุ่นพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีมาตั้งไว้ที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อให้กลุ่มมวลชนที่มาร่วมกิจกรรมได้สรงน้ำตามที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมถือว่าไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
นายทรงพล สนธิรักษ์ อายุ 22 ปี หรือยาใจ ทะลุฟ้า ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องในวันปีใหม่ไทยปีนี้เราอยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบาน จึงได้มีแนวคิดนี้เกิดขึ้นและดำเนินการจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อสรงน้ำที่อนุสาวรีย์ฯ เป็นการแสดงในเชิงสัญลักษณ์ถึงแนวคิดดังกล่าว ในส่วนมาตรการห้ามเล่นสาดน้ำสงกรานต์นั้น ทางกลุ่มมองว่ากิจกรรมนี้อยู่ภายในกรอบที่สามารถทำได้ ทั้งการไม่รวมกลุ่มกันในจำนวนที่มาก และการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และในการสาดน้ำในวันสงกรานต์ก็ไม่ได้ทำการสาดน้ำที่รุนแรงจนเกินไป
และในวันนี้ที่อยากจะจัดกิจกรรมขึ้นมาเนื่องจากทางกลุ่มเองก็มองว่าการรดน้ำดำหัวหรือการสรงน้ำผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลและมีสิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต เราจึงอยากที่จะจัดกิจกรรมในการรดน้ำประชาธิปไตยให้มันเบ่งบานมันงอกเงยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กิจกรรมดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการที่เราอัดอั้นมานานเข้าปีที่ 3 ที่ไม่มีกิจกรรมเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่การละเล่นสาดน้ำสงกรานต์เหมือนทุกๆปีที่สามารถเล่นได้ แต่เน้นในกิจกรรมที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่อยากเห็นประชาธิปไตยมาจากคนทุกคน ไม่ใช่เกิดจากการรัฐประหารที่มีร่วม 8 ปีแล้ว
Leave a Response