ตำรวจ สภ.แวงน้อย เร่งล่าตัว 7 โจ๋ พกทั้งมีดทั้งปืน ดักรุมทำร้าย 2 เยาวชนต่างหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บหนีตายเข้าวัดเอาชีวิตรอด พร้อมทั้งถูกขโมยโทรศัพท์มือถือที่ทำหล่นขณะวิ่งหนี และรถจักรยานยนต์ถูกกลุ่มโจ๋ใช้มีดรุมฟันจนพังเสียหาย แม่คนเจ็บวอนตำรวจเร่งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และขอโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อคืนให้ลูกชาย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 130 ม.8 บ้านตลาดหนองแก ตำบลก้านเหลือง อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบกับนางสุบิน ช่วยนา อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านและเป็นมารดาของน้องเอ (นามสมมุติ) เด็กชายวัยอายุ 15 ปี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 7 คน ดักทำร้ายร่างกายและทุบทำลายรถจักรยานยนต์ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา
นางสุบิน ช่วยนา อายุ 57 ปี กล่าวว่า ช่วงวันที่ 16 เมษายน หรือเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ลูกชายและเพื่อนๆประมาน 8 คน นั่งดื่มกินและเล่นสงกรานต์อยู่หน้าบ้าน ก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเที่ยงคืน ลูกชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินคาดขาว ไปหาเพื่อนที่บ้านหนองแก ขากลับขณะลูกชายขับขี่รถกลับบ้าน มีเพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย 1 คน ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน ดักทำร้ายร่างกายที่บริเวณทางโค้ง ข้างวัดในหมู่บ้าน ทำให้รถจักรยานยนต์ล้ม ลูกชายวิ่งหนีตาย ส่วนเพื่อนลูกชายถูกฟันที่กลางหลังและวิ่งหลบหนีได้ทัน
มารดา คนเจ็บกล่าวอีกว่า ขณะที่ลูกชายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาเพื่อนต่างหมู่บ้านนั้น ขณะที่กลุ่มเพื่อนๆนั่งเล่นรออยู่ที่บ้าน ก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่ดักทำร้ายลูกชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน นั่งซ้อนท้ายกันมาที่บ้านเสียงท่อไอเสียรถดังลั่นไปทั่ว ในมือถืออาวุธมีด และหาเรื่องกลุ่มเพื่อนๆของลูกชาย ซึ่งเพื่อนๆลูกชายทั้งชายและหญิง แต่ละคนอายุ 13-15 ปีเท่านั้น ตนจึงออกมาเคลียให้ โดยวัยรุ่นกลุ่มที่หาเรื่องบอกว่า เคลียให้เรียบร้อยด้วย นี่คือวัยรุ่นบ้านอีโล และยิงปืนขู่ 3 นัดจึงได้รู้ว่ากลุ่มที่มาหาเรื่องเป็นวัยรุ่นบ้านอีโล ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กม.
“หลังจากวัยรุ่นบ้านอีโลไปไม่นาน ลูกชายก็กลับมาที่บ้าน จึงพาลูกชายเข้าหลบในห้องนอนเพราะเกรงว่า กลุ่มหาเรื่องจะวนกลับมาอีก ก็พบว่า ที่บริเวณหน้าผากมีรอยแดง และปูดบวม ซึ่งได้ถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกชายก็บอกว่า ไม่รู้เรื่อง จู่ๆก็ถูกดักทำร้าย และถูกชกที่หน้าหลายครั้ง แล้วยังถูกกลุ่มดังกล่าว ลักเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน ราคา 23,000 บาทไปด้วย ในฐานะแม่ รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้หาหลักฐานมายืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งได้คลิปขณะเกิดเหตุ เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ ให้ตำรวจสืบสวนจับกุม กลุ่มคนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายและเพื่อน แต่ถ้ากลุ่มคนก่อเหตุ นำโทรศัพท์มือถือมาคืน แม่จะไม่เอาเรื่อง”
ขณะที่น้องเอ(นามสมมุติ) กล่าวว่า ไม่เคยมีเรื่องเขม่น หรือผิดใจกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้านมาก่อน จึงไม่รู้สาเหตุของการดักทำร้ายร่างกายและทุบรถ แต่จำได้ว่า หนึ่งในกลุ่มที่ลงมือทำร้ายนั้น ชื่อว่านายหลอด อายุประมาน 16 ปี ชาวบ้านอีโลเป็นเพื่อนของสามีเพื่อน แต่ไม่เคยคุยหรือมีเหตุขุ่นเคืองกัน หลังเกิดเหตุจึงเข้าแจ้งความให้ตำรวจจับกุม กลุ่มที่ดักทำร้ายตนเองกับเพื่อนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอให้เอาโทรศัพท์มือถือมาคืน ส่วนรถจักรยานยนต์ของตนที่ถูกทุบทำลาย ได้นำเข้าร้านซ่อมแล้ว
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบการการีสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับ พ.ต.อ.สุภสิทธิ์ สุวรรณี ผกก.สภ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 16 ย่างเข้าวันที่ 17 เมษายน และญาติได้พาฝ่ายคนเจ็บที่ถูกทำร้ายร่าวกายและถูกทุบรถจักรยานยนต์เข้าแจ้งความในช่วงบ่ายวันที่ 17 เมษายน
หลังทราบเรื่องได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนก่อเหตุ ซึ่งทราบชื่อที่อยู่หมดแล้ว มีทั้งหมด 7 คน เป็นเยาวชน 3 คน ผู้ใหญ่ 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์รวม 4 คัน แต่ขอปกปิดชื่อ ที่อยู่เอาไว้ทั้งหมด และขณะนี้ยังไม่ได้ออกหมายเรียกหรือเชิญตัวมาสอบสวน เพราะหลังจากรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวคนเจ็บไปตรวจร่างกายที่รพ. จึงต้องรอผลตรวจจากแพทย์ว่า คนเจ็บ เจ็บมากน้อยเพียงใด เมื่อได้ผลแพทย์แล้วก็จะออกหมายเรียกทั้ง 7 คนมาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Response