ตำรวจ สภ.พล ตามรวบลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก่อเหตุวางเพลิงเผากุฏิเจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้านจนวอดทั้งหลัง เจ้าอาวาสวัด อายุ 89 ปี ต้องปีนหนีออกมาทางหน้าต่างกระแทกพื้น เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธ ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เผย ชายดังกล่าวมาก่อไฟก่อนเกิดเหตุและมีประวัติเคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติดวอนเอาตัวไปบำบัดรักษา
มีกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3” โพสต์คลิปชายวัยกลางคนเผาขยะอยู่บริเวณข้างกุฏิกลางดึก โดยมีชาวบ้านที่เป็นพลเมืองดีเข้าไปถามว่าเข้ามาทำอะไรแต่ก็อ้างว่ามาทำความสะอาดวัดเพราะขยะและหญ้าบริเวณดังกล่าวมันรก จากนั้นก็ได้มีการคุยเล่นกันตามปกติก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 19 เมษายน 2565 ก็ได้มีอีกคลิปซึ่งเป็นภาพที่กุฏิเจ้าอาวาสได้ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง
พร้อมข้อความระบุว่า “พิษภัยของยาเสพติด..ภัยร้ายแก่ชุมชนและสังคม #ขอนแก่น เหตุเกิดตี3ที่วัดบ้านหนองโจดหนองสำโรง เผาวัดเรียบร้อย คับรอบนี้ผู้นำทั้ง2บ้านชาวบ้านพระ สามารถดำเนินคดีได้เต็มที่ บ่มีข้ออ้างเด้อบาดนี้เต็มตีนปานนี้ ฤทธิ์ของยาบ้าแตกซวดๆ Aระดับหัวแถวของอำเภค บ่เคยถืกจับมาเป็น10กว่าปีแล้ว Aบ้านนี้ หมู่5 หมู่10 หนองโจด-หนองสำโรง จงเจริญยาบ้าเสรี5555”
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 เม.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดจันทรังษี บ้านหนองสำโรง หมู่ 10 ต.ลอมคอม อ.พล จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับพระครูจันทร์ บุญหล่อ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัด ซึ่งนอนอยู่ด้วยอาการปวดเอว เพราะหนีไฟไหม้ออกมาทางหน้าต่างจนก้นกระแทกพื้น และญาติโยมพากันนั่งคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในศาลาวัด ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ไฟไหม้นั้นเกิดจากฝีมือลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีอาการทางจิตและเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนถูกตำรวจจับตัวดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปบำบัดรักษา
พระครูจันทร์ บุญหล่อ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดจันทรังษี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงตี 2 เกือบตี 3 ขณะนั้นเจ้าอาวาสกำลังจำวัดตามปกติ จู่ๆชายดังกล่าวก็พูดขึ้นมาว่า จุดแล้วเด้อหลวงปู่ ไฟไหม้แล้วเด้อ ไฟไหม้กุฏิหลวงปู่แล้วเด้อ ก่อนจะมีไฟไหม้ขึ้นมาบนกุฏิ เจ้าอาวาสตั้งสติได้ รีบปีนออกทางหน้าต่าง โดยการงัดหน้าต่าง และโชคดีที่หน้าต่างพังอยู่แล้ว สามารถงัดออกได้ง่ายทำให้หนีรอดออกมาได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บปวดเอวเนื่องจากก้นกระแทกพื้น ก่อนจะไปตามชาวบ้านมาช่วยดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที
ขณะที่นางหล่ำ นามเดช อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนเกิดเหตุเห็นคนที่วางเพลิงวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุและตีกลอง พร้อมกับตะโกนประกาศว่า “เผากุฏิแล้วเด้อ เผากุฏิแล้วเด้อ” ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวเคยเข้ามาเผาบริเวณข้างกุฏิแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 แต่เป็นช่วงกลางวันชาวบ้านก็เลยห้ามปรามไว้ทันและนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวช ภายหลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวชชายคนดังกล่าวก็ได้กลับเข้ามาเผาขยะบริเวณข้างกุฏิอีกครั้งและมีคนมาพบเห็นอีก ก่อนจะมาในครั้งนี้ก็มาเผากุฏิเจ้าอาวาสจนวอด และโชคดีที่เจ้าอาวาสไม่ถึงแก่ชีวิต และเคราะห์ดีอีกมากๆที่หน้าต่างที่เจ้าอาวาสออกมาลูกกรงพังและเป็นบานเดียวที่พัง งัดออกแล้วกระโดดหนีเปลวไฟได้ทัน ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิดไม่ได้ แม้ชาวบ้านจะรู้ว่าใครทำแต่ไม่มีหลักฐานก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาตัวไปบำบัดรักษาให้หายด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่นมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบสวนพยานแวดล้อมที่อยู่วัดที่เกิดเหตุ โดยมีพยานแวดล้อม 2 คน ให้การตรงกันว่า ช่วงเวลาเกือบตีสาม มีเสียงตีกลองภายในวัด จากนั้นก็มีไฟลุกโหมจากกุฏิเจ้าอาวาสแล้วก็มีนายมนูญ คนในหมู่บ้าน ที่มีอาการป่วยจิตเวช วิ่งออกมาจากวัด พร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า เผาแล้ว เผากุฏิเจ้าอาวาสสำเร็จแล้ว และก็วิ่งกลับบ้านไป พยานจึงรีบวิ่งไปที่กุฏิเจ้าอาวาส เห็นเจ้าอาวาสกระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้นสองตกลงมาที่พื้นดิน จึงรีบอุ้มออกจากวัด ขอความช่วยเหลือจากกู้ชีพ นำส่งรพ. ซึ่งเจ้าอาวาสปลอดภัยดี มีอาการปวดหลัง ปวดเอว เพราะอายุมากแล้ว
ในขณะที่การสอบสวนผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ต่างก็เชื่อว่า ไฟไหม้กุฏิเจ้าอาวาสวัดครั้งนี้ เป็นการกระทำของนายมนูญ ลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพราะเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา นายมนุญเคยเผาไปแล้ว แต่ชาวบ้านช่วยกันดับไฟได้ทัน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมเผาเสื้อผ้า ยางรถยนต์ รั้วไม้ไผ่ของชาวบ้านมานับครั้งไม่ถ้วน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัว นายมนูญ พรมวัน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 บ้านหนองสำโรง ม. 10 มาสอบปากคำ แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดแต่ไม่พบสารเสพติด
แต่ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมาและครั้งล่าสุดที่พยานเห็นนายมนูญ วิ่งตะโกนออกมาจากวัดว่าเผาได้แล้ว เผาสำเร็จแล้ว จึงเชื่อว่าครั้งนี้นายมนุญก็ลงมือเผากุฏิเจ้าอาวาสซ้ำอีก ซึ่งภายหลังการสอบสวนพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ และควบคุมตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพลในวันที่ 20 เมษายนนี้
Leave a Response